**Warning Spoilers**
Title: Once Again
Author: Movivin
Pairing: Jacob x Queenie
Rating: -
0.
ในวินาทีที่พวกเราสบตากัน ฉันยิ้มให้กับใบหน้าที่พิลึกพิลั่นของเขา.... ยิ้มให้กับความคิดของเขาที่ไม่มีใครอื่นนอกจากฉันเท่านั้นที่ได้ยิน.....
1.
อย่างที่ฉันเคยพูดออกไป...เขาช่างเป็นผู้ชายที่ไม่เหมือนใคร และคงไม่อาจจะมีใครที่เป็นเหมือนเขาได้อีกแล้วในโลกใบนี้
...เขาเหมือนกับสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าได้มอบให้แก่ฉัน แก่แม่มดคนหนึ่งผู้ซึ่งเร้นกายอยู่ภายใต้โลกของเหล่าโน-เมจ ..ให้ได้ค้นพบกับสิ่งที่ฉันคงไม่อาจหาได้อีกแล้วไม่ว่าจะที่ไหน
แม้ว่าตัวของเขาจะไม่ได้มีรูปร่างที่สูงใหญ่ งามสง่า หรือมีใบหน้าที่หล่อเหลาเหมือนผู้ชายมากมายที่ก้าวผ่านเข้ามาให้ฉันได้เห็น แต่ถึงกระนั้น เขาก็ทำให้ฉันมองตามเขาได้ราวกับว่าโลกใบนี้มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่ส่องประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าใคร
ทั้งๆที่เขาไม่มีพลังวิเศษ ไม่มีเวทมนตร์คาถาใดๆ ไม่ได้เป็นคนใหญ่คนโตมาจากไหน เป็นเพียงแค่โน-เมจคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในโรงงานอาหารกระป๋องธรรมดาๆเท่านั้น
แต่...
...เขาทำให้ฉันยิ้ม...
...เขาทำให้ฉันหัวเราะ...ได้ในทุกครั้งที่พวกเรานั้นอยู่ด้วยกัน...
เขา...ทำให้ฉันไม่อาจจะละสายตาจากเขาไปไหนได้อีก
เขาทำให้ฉันตกหลุมรักด้วยความงดงามจากภายในของเขาที่ไม่มีเหล่าโน-เมจหรือพ่อมดแม่มดคนใดมองเห็น.. อาจจะยกเว้นทีน่ากับคุณสคามันเดอร์ที่รับรู้ถึงความพิเศษของเขา
ใครกันที่กล่าวว่าตัวของเขานั้นเป็นโน-เมจที่ไร้ซึ่งเวทมนตร์ เวทของเขานั้นรุนแรง แกล่งกล้ายิ่งกว่าใครที่ฉันเคยพบเสียอีก เวทที่แสนอ่อนโยนบทนั้นของเขาที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถเสกมันออกมาได้ทำให้หัวใจของฉันพองโตราวกับลูกโป่งที่ถูกสูบด้วยลมร้อน
และเมื่อแววตาคู่นั้นมองมาที่ฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันได้กลายเป็นคนพิเศษของใครซักคน.. ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครมองว่าฉันเป็นคนพิเศษ แต่กับคุณโควัลสกี้นั้นต่างออกไป ความพิเศษที่เขามอบให้กับฉันมันช่างมากล้นเหลือเกิน
แต่เรื่องดีๆนั้นมักไม่ยืนยาว ช่วงเวลาที่มีร่วมกันมันกลับดูแสนสั้น
ในที่สุดก็ถึงวันที่ฉันต้องสูญเสียเขาไปเพียงเพราะมันผิดต่อกฏหมายที่ถูกตั้งไว้เพื่อความปลอดภัยของเหล่าพ่อมดแม่มดฉันกลับคิดว่ามันช่างไม่ยุติธรรม... คนพวกนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าลึกๆแล้วเขาเป็นคนอย่างไร ไม่มีใครรู้ถึงความน่าพิศวงของเขาเลยซักคน
บางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาแตกต่างจากโน-เมจคนอื่นๆนั้น....ทำไมพวกเขาถึงไม่ยอมมองดูให้ดีๆ
2.
แต่คุณก็ยังคงเป็นคุณ...
คุณบอกฉันว่าไม่เป็นไร คุณยิ้มให้ฉันแม้ในใจของคุณนั้นกำลังโศกเศร้า แต่สิ่งที่คุณคิด...สิ่งที่อยู่ในหัวของคุณ...
แม้ว่ามันจะเจ็บปวด แต่ความงดงามเหล่านั้นทำให้ฉันไม่อาจจะรั้งคุณไว้ได้อีกต่อไป เพราะขนาดฉันบอกคุณว่าเราสามารถที่จะหนีไปจากที่นี่ด้วยกันได้ แต่คุณก็ยังคงปฏิเสธ ความจริงไปตรงมาของคุณทำให้ฉันยอมที่จะปล่อยมือจากคุณ
ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่คุณคิดแล้ว เป็นสิ่งที่คุณตัดสินใจไปแล้ว..ต่อให้ฉันหรือคนอื่นจะพยายามพูดอย่างไรมันก็คงมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจมากก็เท่านั้น
คุณสคามันเดอร์รู้ ทีน่าเองก็รู้...พวกเราจึงยอมปล่อยให้คุณได้ก้าวขาออกไปโดยต้องพยายามรั้งตัวเองไว้ไม่ให้ไปดึงคุณกลับเข้ามา
แล้วคุณก็ปิดตาลง ยอมรับชะตากรรมนั้นอย่างตรงไปตรงมา...มันราวกับว่าการลงโทษนั้นคือการลงโทษพวกเราทุกคนที่ดึงให้คุณถลำลึกมาในโลกของฝั่งนี้
แต่การกล่าวลาเพียงแค่ฝั่งเดียวนั้นมันคงจะน่าเศร้าเกินไป
ฉัน...จึงทำได้เพียงแค่ก้าวออกไปจุมพิตคุณ ฉันไม่ได้ต้องการให้มันเป็นคำกล่าวลา... แต่มันคือคำสัญญาของฉันว่าฉันจะไปหาคุณอีกไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนฉันก็จะตามหาคุณให้พบ..
และครั้งนี้ฉันจะเป็นคนที่ก้าวผ่านประตูบานนั้น เพื่อเข้าสู่โลกของคุณบ้าง จะเป็นคนที่เป็นฝ่ายไปพบคุณก่อนบ้าง....ได้โปรด รอฉันก่อนนะคะ
เอาตามตรง ฉันไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไงบ้าง
แม้ว่าฉันจะมายืนอยู่หน้าร้านขนมปังของคุณ ร้านที่ในที่สุดคุณก็สร้างมันขึ้นมาได้...ร้านที่มีเศษเสี้ยวความทรงจำมากมายอัดแน่นอยู่ภายในนั้น... แม้ว่าคุณจะจำไม่ได้ แต่คุณก็ไล่ตามความฝันของคุณได้ในที่สุด นั่นทำให้ฉันดีใจ..
แต่เรื่องมากมายที่ฉันคิดไว้มันก็ถูกหยุดชะงักลงจนฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างขึ้นเมื่อพวกเราสบตากัน
เพราะความคิดของคุณในตอนนี้กับความคิดแรกในยามที่คุณมองฉันในวันแรกที่เราพบกันมันไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่รู้ว่าฉันคือแม่มด หรือกระทั่งในยามนี้ที่คุณคิดว่าฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงโน-เมจธรรมดาคนหนึ่ง
แต่ความคิดที่งดงามนั่น แววตาที่หยุดอยู่เพียงแค่ฉันเท่านั้น...
แค่นั้นก็มากพอที่จะทำให้ฉันตกหลุมรักเขาอีกครั้ง..
แค่นั้น...ก็เพียงพอแล้ว....
-------------------------------------------------------------------------------------------
*Talk*
โดยปกติแล้วจะไม่ค่อยชอบเขียนฟิคจากนิยาย/การ์ตูน หรือหนังเท่าไหร่เพราะกลัวผิดคาร์ แต่คู่นี้ไม่ไหวจริงๆครับ ยอมแล้ว ยอมเลย หลังดูจบก็คิดฟิคได้ แต่เพราะไม่ได้เขียนเรื่องมาพักหนึ่ง(ล่าสุด3ตุลา)ทำให้ตบตีกับภาษาตัวเองหนักมาก ตอนที่เขียนออกมานี้ก็ยังรู้สึกติดขัดอยู่บ้าง แต่ก็พยายามเกลาแล้วละครับ ก็..ได้เท่านี้
เอาจริงๆชอบหลายคนในนี้นะครับ ว่าจะเขียนอีกในอนาคต น่าเสียดายที่ความจำผมไม่ค่อยจะทำ สงสัยเร็วๆนี้คงต้องหาเวลาเข้าไปดูอีกรอบให้ได้จริงๆ...
ขอบคุณที่มาอ่านกันนะครับ มีอะไรอยากติชมก็ทิ้งไว้ในคอมเมนท์ได้เลยครับผม
No comments:
Post a Comment