Sunday, November 15, 2015

[ToB] [O] event 1.4 : White



 "The Sound of Silence"


0.

หากพูดถึงสีขาว แต่ละคนจะนึกถึงอะไร

สำหรับข้า มันก็คงเหมือนกับสีของน้ำนมในแก้ว และสีของเมฆบนฟ้า

สีของหิมะที่ข้าไม่เคยเห็น และดอกไม้ขาวที่เบ่งบานตอบรับความรักของคนสองคน... เป็นสักขีพยานของความรักของชายหญิง ของพี่ชาย ของพี่สะใภ้


นั่นถือเป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นถึงความรักที่ถูกกลั่นออกมาจากคำเลื่อนลอยที่ใครต่อใครมักพูดถึง กลั่นออกมาจนเป็นรูปเป็นร่าง ผ่านทางแววตาที่พวกเขามองสบตาซึ่งกันและกัน


ความรักสีขาว..สะอาดบริสุทธิ์ เหมือนกับกลีบดอกไม้ที่ร่วงโรยลงมาจากฟากฟ้า

ราวกับสีของหิมะขาวในหนังสือนิทานที่ข้าเคยอ่านพบ

ความรักที่ร่วงหล่น มันผลิบานบนผืนดิน แตกหน่อและออกผล งดงามจนยากที่จะบรรยาย


..นี่เหรอคือสิ่งที่เรียกว่าความรัก..?


ข้ามองภาพนั้นแล้วเอ่ยถามตัวเอง เพราะข้าไม่เคยรู้จักรักในแง่ของหนุ่มสาวแบบนั้นนอกจากความสัมพันธ์ของครอบครัว ถึงแม้พี่ชายจะบอกข้าว่ามันก็คือก้าวหนึ่งของการพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นไปแต่ข้ากลับคิดว่ามันนั้นแตกต่างอยู่ดี

อาจจะเพราะข้าไม่เคยเห็นพี่ของข้ายิ้มกว้างแบบนั้น

ข้าไม่เคยเห็นเขามองใครด้วยสายตาที่อ่อนโยนถึงขนาดนั้น

ข้าไม่เคยเห็นเขาโอบกอดใครไว้ในอ้อมแขน...อย่างเบามือเหมือนที่พี่ทำกับนาง


และอาจจะเพราะท่านพ่อไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นกับท่านแม่เลยแม้แต่อย่างเดียว ข้าจึงเพิ่งเคยได้พบว่าการรักใครซักคนมากเท่านั้นช่างเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ


แต่มันก็คือ "ความรัก"

...พี่บอกกับข้า

มันคือ "ความรู้สึก"

มันคือสิ่งที่ข้า...กำลังพยายามทำความเข้าใจอยู่


แต่ภาพตรงหน้าในตอนนี้กลับดูอบอุ่นเหลือเกิน อบอุ่นเกินกว่าที่ข้าจะสรรหาคำไหนมาเปรียบเทียบ

จะเรียกว่าเป็นความรู้สึกที่พองอยู่ในอก เหมือนลูกโป่งที่ถูกเป่าด้วยลมร้อนแล้วปล่อยให้ละลอยล่องอยู่ในท้องก็คงได้

พลิ้วไหว ห่างไกล...แต่งดงาม ไม่หวือหวา

มันเรียบง่ายเหมือนกับสายลมที่พัดผ่านม่านในยามสาย และอุ่นสบายเหมือนแสงแดดในยามเช้า


เบื้องหน้าของข้าในตอนนี้ ท่านพี่และพี่สะใภ้สัมผัสฝ่ามือของกันและกัน พวกเขาเกี่ยวปลายนิ้วเชื่องช้าก่อนจะจับประสานไว้ราวกับคำสาบานที่ไร้เสียง ริมฝีปากของท่านพี่สัมผัสหน้าผากของนางแผ่วเบา และยิ้มให้แก่กัน

ท่ามกลางความเงียบของผู้คน แขกเหรื่อเริ่มก้าวถอยหลัง เว้นช่องว่างตรงกลางเป็นลานโล่งทรงกลมให้คู่บ่าวสาวได้โดดเด่นออกมา ก่อนที่บทเพลงผะแผ่วจะถูกบรรเลงจากกอดีตกลุ่มนักเรียนโรงเรียนพระราชาไม่กี่คนที่พี่แนะนำว่านั่นคือ "เพื่อน" ของพี่ "เพื่อน" ที่แสนสำคัญ

บนเพลงและคำร้องที่ไม่คุ้นเคยดังสะท้อนไปตามแผ่นหินและความเงียบ ก่อนก่อนเป็นเสียงดนตรีที่ช่างแสนไพเราะ


รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ...

และ...พวกเขาที่เริ่มหมุนตัวเข้าหากัน

พี่สะใภ้จับชายกระโปรงนางด้วยมือข้างหนึ่งในขณะที่พี่ชายใช้มืออีกข้างของตนไพร่หลัง ก้าว...ก้าว... ถอย ด้วยมือข้างนั้นที่ไม่ปล่อยออกจากกัน มีแต่จับประสานแน่นขึ้นไป


ความรักของชายหญิง

ความรักของท่านพี่และตัวนาง

ความรักของชายเพชฌฆาตกับนางผู้เฝ้าสุสาน

ช่างฟังดูพิลึกพิลั่นเหมือนกับผู้คนรอบข้าง ไม่สมประกอบซักเท่าไหร่ แต่ก็มีความงดงามในตัวของมันเอง และหากจะกล่าวว่ามันเป็นภาพที่ติดตรึงแค่ไหน ก็คงต้องตอบว่ามันติดตรึงจนรู้สึกประหลาดใจ

และนั่นคือสีขาวที่ข้าได้รู้จักเพิ่มขึ้นมา

สีขาวของความบริสุทธิ์ที่แม้แต่มือของผู้ที่แปดเปื้อนไปด้วยมลทินยังสามารถสวมใส่ได้โดยไม่ทำให้มันเปรอะเปื้อนสิ่งใด



....


No comments:

Post a Comment