Friday, January 6, 2017

[INTS] [01] Brother




1. 


            การเป็นพี่ชายนั้นเป็นงานที่หนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเป็นพี่ชายคนโตของบ้าน เพราะนอกจากจะเป็นว่าที่ผู้นำครอบครัวคนต่อไปแล้ว เขายังยังต้องมีภาระชิ้นใหญ่ที่ตัดไม่ขาดติดตัวอยู่อีกสามชิ้น

            มีชีวิต มีจิตใจ...แต่ไร้ซึ่งความน่ารักเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งแก่แดด และซนเหมือนลิง ปากเปราะเหมือนลูกหมา ทำเป็นกล้าเพื่อจะไม่ให้ถูกเขาทิ้งให้อยู่แต่ในบ้าน แต่ก็ขี้อ้อนยิ่งกว่าอะไร..


เจ้าเด็กโง่สามคนนั้น...





...เป็นภาระชิ้นใหญ่ที่เขารักมากที่สุดในโลก...



2.


            น้องทั้งสามคนนั้นเกิดห่างจากเขาอยู่หลายปี ขนาดน้องคนรองยังเกิดขึ้นมาตอนเขาอายุห้าขวบ พวกที่เหลืออีกสองก็เด็กกว่านั้นมาก

            เอาจริงๆก็ใช่ว่าเขาจะอยากมีน้อง

            การเป็นลูกคนเดียวนั้นสบายกว่ามาก ไม่ต้องดูแลใคร ไม่ต้องแบ่งของให้ใคร ไม่ต้องคอยไล่ตามดูแลใคร แต่ในเมื่อมันเป็นความต้องการของพ่อกับแม่แล้ว จะให้ไปขัดก็ทำไม่ได้ เขาจึงใช้เวลาส่วนมากในการเข้าป่า และสำรวจลำธาร เล่นกับเด็กในหมู่บ้าน และคอยมองดูท้องของแม่ที่เริ่มโตขึ้นทุกวัน

            เขาไม่ค่อยได้พูดคุยกับแม่นัก แต่ก็พยายามจะทำอะไรให้แม่รู้สึกดีบ้าง เพราะยิ่งท้องของแม่ใหญ่ขึ้น มันก็น่ากลัวว่าจะแตกออกมาได้ทุกวินาที

            หน้าท้องที่เคยแบนราบ ตอนนี้พองและแข็ง แต่ถึงอย่างนั้นแม่ก็ยังคงลูบมันอย่างอ่อนโยนด้วยความรักจนเขาในตอนนั้นแอบอิจฉาไม่ได้ แต่พอเผลอขมวดคิ้วก็จะถูกปลายนิ้วของแม่จิ้มเข้าที่กลางหน้าผาก


            "ถ้าน้องเกิดมา ต้องรักเขาให้มากๆนะรู้ไหม"




3.


            ถึงความทรงจำหลายอย่างในช่วงนั้นไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่จำได้ไม่มีวันลืมก็คงเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าของน้องชายคนแรก...เด็กที่หน้าย่นเหมือนผ้าที่ถูกขยำกำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของแม่ที่ฮำเพลงกล่อมแผ่วเบา

ถึงเขาจะไม่จำเป็นต้องมานั่งเลี้ยงดูอะไรมากมายเพราะไม่ใช่งานของเขาแต่ก็อดที่จะโผล่หน้าเข้าไปดูหน้าสิ่งมีชีวิตที่นอนหลับอยู่ในท้องของมมาตลอดเก้าเดือนไม่ได้ ใครจะไปคิดว่าพอคลอดออกมาแล้วมันจะยังคงหลับอยู่อีก แต่สิ่งที่จำได้แม่นยิ่งกว่าอะไรคือการถูกแม่บังคับ ยัดเด็กทารกที่เพิ่งเกิดให้เขาอุ้มนั้นทำให้เด็กห้าขวบอย่างเขาทำอะไรไม่ถูก จะขยับก็ไม่กล้า จะส่งคืนกลับไปคนให้ก็ไม่ยอมรับ ในใจก็ได้แต่ภาวนาไม่ให้ไอ้เด็กนี้ร้องไห้...ไม่ให้ตื่นขึ้นมา

            ...เหมือนสั่งได้ มันลืมตาทันทีที่เขาพยายามจัดท่าให้มันอย่างที่แม่แนะนำ

แต่พอมันเปิดตากลมๆของมันขึ้นมอง..

            ดวงตาสีเขียวหัวเป็ดแบบเดียวกันที่ใสเหมือนทะเลสาบช่วงฤดูใบไม้ผลิกลับจ้องเขาจนทำตัวไม่ถูก แต่รอยยิ้มเล็กๆที่กว้างออกนั่นก็ทำให้ผีเสื้อในท้องของเขาสงบนิ่งลงได้อย่างน่าประหลาด...


            “คิก...ฮะๆ”



            มือที่เล็กพอๆกับมือของกระรอกเริ่มปัดป่ายไปมา หน้าย่นๆที่เริ่มมีสีเลือดฝาดกำลังหัวเราะด้วยเสียงน่ารำคาญที่ดังเหมือนกับระฆังของโบสถ์ในวันอาทิตย์นั้นดังจนเขารู้สึกเหมือนเวลาตรงนั้นถูกหยุดนิ่ง



            “อเลส... เป็นอะไรไปจ๊ะ”

            เสียงของแม่ที่อยู่บนเตียงดังเรียกสติให้เขาเงยขึ้นมอง ก่อนจะก้มหน้ากลับลงไปใหม่ แต่นั่นก็มากพอจะให้คนเป็นแม่หัวเราะตามอย่างช่วยไม่ได้

            อ้อมแขนที่บอบบางของมารดาอ้าออก เรียกให้เด็กดื้อของตระกูลเอนตัวเข้าซุกหาความอบอุ่นนั่นอย่างช่วยไม่ได้

            ผ้าเช็ดหน้าปักจากผ้าเนื้อดีปาดเช็ดตามขอบตาของลูกชายคนโต เธอจูบซับหางตาของเขาอย่างรักใคร่ ไล่มาตามแก้มและหน้าผาก ก่อนจะก้มหน้าเอาหน้าผากชนกับลูกคนเดียวที่กลายเป็นลูกคนโต เขายังคงเกร็งตัว แต่ก็ดูจะอุ้มเด็กได้ดีกว่าที่เธอคิด อย่างน้อยก็คงไม่น่าจะเป็นห่วงอะไร



            “รักน้องให้มากๆนะจ๊ะคนดี”



            “...อือ”



            คำตอบรับสั้นๆที่ทำให้นางบราวน์อดที่จะหอมแก้มเขาอีกฟอดใหญ่ไม่ได้ ก่อนที่นายบราวน์จะวางมือลงบนหัวของเขาแล้วตบมันเบาๆ


            “แต่ถ้าน้องไม่น่ารัก ผมจะไม่รักเขาจริงๆนะ”


            “แหม.. ตายจริงเด็กคนนี้”


            เสียงบ่นอย่างไม่จริงจังของมารดานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความเอ็นดู กระทั่งแรงฝ่ามือของพ่อก็ยังแรงขึ้นมาจนเขาต้องปัดออก


            อเลสเตอร์ก้มมองน้องชายที่ยังคงมองตาใส

            ปลายนิ้วที่ยกจิ้มแก้มเล็กๆนั่นถูกจับไว้ด้วยแรงของเด็กแรกเกิดที่มีมากกว่าที่คิด



            เขาถอนใจ ก่อนก้มลงจูบหน้าผากเจ้าตัวเล็กที่หัวเราะออกมาอีกครั้งอย่างแผ่วเบา








            ความรู้สึกของการเป็นพี่คนมันเป็นอย่างนี้นี่เอง...








[TBC.]



No comments:

Post a Comment