Saturday, June 16, 2018

Seth : 01

สำหรับพี่...ฉันเป็นน้องที่ขยันก่อภาระ

สำหรับพ่อ...ฉันเป็นเพียงเด็กที่เกิดมาด้วยความจำเป็น

สำหรับท่านเมอซี่นั้น...ฉันคงจะเป็นเพียงที่ระบายอารมณ์เมื่อตัวพระองค์ไม่พอใจ

แต่สำหรับฉัน...ท่านเมอซี่คือผู้ที่ทำให้ฉันได้ลืมตาขึ้นมาบนโลกนี้ คือผู้ที่ทำให้ชีวิตอันไร้ค่านี้มีความหมาย

เพราะหากไม่ใช่เพื่อพระองค์แล้ว ตัวของฉันก็คงไม่อาจแม้แต่จะมีตัวตน...และแม้แต่พี่เองก็คงไม่ได้ต้องการ

และแม้ว่าท่านเมอซี่จะไม่ได้รับรู้เรื่องในข้อนี้ แต่อย่างน้อยฉันก็ต้องการที่จะเข้มแข็ง -- ไม่ต้องเท่าพี่ แต่อย่างน้อยก็ขอเพียงแค่ซักครึ่งของพี่ ให้ฉันได้ปกป้องและดูแล ได้คอยรับใช้คนผู้นั้นต่อไป

และต่อให้ท่านเมอซี่จะระบายอารมณ์กับตัวของฉัน ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธ ไม่มีสิทธิ์ที่จะปัดป้อง...ด้วยเพราะร่างกายนี้เป็นของท่านมาตั้งแต่ก่อนที่ตัวของฉันจะได้รับรู้เรื่องราวต่างๆเสียอีก เช่นนั้นแล้วฉันจึงไม่มีความหมายใดที่จะให้ปฏิเสธการกระทำนั้น

แม้จะไม่พอใจ แม้จะเจ็บปวด แม้จะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ตัวฉันก็พร้อมจะน้อมรับสิ่งที่ท่านมอบให้ทั้งหมด

รัก...ไม่รัก

เรื่องนั้นไม่เกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย

ในเมื่อสิ่งที่สำคัญที่สุดของตัวฉัน คือการที่ท่านยังคงยินยอมให้ฉันผู้แสนจะไร้ค่านี้ก้าวตามรับใช้แต่เพียงเท่านั้นเอง...

Velvet : 02

อันนี้ต่อจากอันที่แล้ว แต่คนละไทม์ไลน์

---------

การที่กระหม่อมเกิดมาก็เพื่อพระองค์ท่าน

การที่กระหม่อมเติบโตมาก็เพื่อพระองค์ท่าน

การที่กระหม่อมร่ำเรียนเขียนอ่าน ทั้งศาสตราและอาวุธก็เพื่อพระองค์ท่าน...

ชีวิตทั้งหมดของข้าพระองค์นั้นมีเพียงเพื่อฝ่าพระบาทของกระหม่อมแต่เพียงผู้เดียว

ฝ่าบาทจะทรงเป็นผู้เดียวที่สามารถสั่งการกระหม่อมได้

ฝ่าบาทจะทรงเป็นเพียงผู้เดียวที่สามรถหยุดยั้งกระหม่อมได้

ฝ่าบาทจะทรงเป็นเพียงผู้เดียวที่กระหม่อมจะมอบกายและวิญญาณ

จะอยู่เคียงข้างกายไม่ไปไหน...

....

แต่ต่อจากนี้ไปนั้น...กระหม่อมคงมิอาจอยู่เคียงคู่พระองค์ได้อีกต่อไป

มิอาจได้เคียงข้าง...มิอาจได้รับใช้

มิอาจ....จะถวายกายและวิญญาณนี้ให้แก่ฝ่าพระบาทของกระหม่อมได้อีกต่อไป...

จากนี้..และตลอดไป กระหม่อมขอให้พระองค์ทรงดูแลรักษาพระวรกายให้ดี

เพราะต่อจากนี้พระองค์นั้นจะไม่มีกระหม่อมคอยอยู่เคียงข้างอีกต่อไปแล้ว

จะไม่มีกระหม่อมคอยปกป้องและดูแลอีกต่อไปแล้ว....

เพราะอย่างนั้นแล้วพระองค์จงโปรดฟังคำร้องขอครั้งสุดท้ายของกระหม่อมด้วย

โปรดจงดูแลตนเองให้ดี...ขอเพียงเท่านี้กระหม่อมก็พอพระทัย

Velvet : 01


เวลเว็ท เดอ เฟรมา

เจ้าคือมังกรขององค์ราชันย์ คือดาบ คือโล่ห์ คือมังกรเคียงข้างราชบัลลังก์แห่งซิลวา

เจ้าเกิดมาเพื่อรับใช้องค์ราชา เจ้าเกิดมาเพื่อจงรักและภักดี...เพื่อมอบกาย ถวายวิญญาณ เพื่อซื่อสัตย์ต่อนายเหนือหัวของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

เวลเว็ท บุตรแห่งข้าเอ๋ย...

ทางข้างหน้าของเจ้าแม้เต็มไปด้วยขวากหนามแต่เจ้าก็จงห้ามถอยหนี

เจ้าจงทำลายสิ่งกีดขวางเหล่านั้น และจงปูเส้นทางที่สง่างามที่สุดให้แก่นายเหนือหัวของเจ้า ด้วยมือ ด้วยเท้า ด้วยพลังทั้งหมดที่เจ้ามี

เพราะเจ้าคือมังกรผู้รับใช้องค์ราชา เพราะเจ้าคือผู้ถือตราแห่งราชบัลบังก์

คือศาสตราแห่งเปลวไฟผู้ถวายคำสัตย์ฏิญาณ

คือผู้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจนิจนิรันดร์

เพราะเช่นนั้นแล้วเจ้าจึงไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดพัก เจ้าจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ถอนตัว ไม่ได้รับอนุญาตให้อ่อนแอ...

เวลเว็ท เดอ เฟรมา..

เพื่อฝ่าบาทแล้วเจ้าต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าใคร เพื่อพระองค์แล้วเจ้าต้องเฉลียวฉลาดยิ่งกว่าผู้ใด

จงห้ามมีตำหนิในทุกสิ่งที่เจ้าทำ

จงห้ามมีรอยด่างพร้อยในทุกย่างที่ก้าวเดิน

จงเชิดหน้าและมองตรง

จงสง่างามและสูงค่า

จงเป็นดั่งอัญมณีแห่งดวงอัคคีผู้มิอาจมีผู้ใดได้ไขว่คว้าครอบครอง

...

เวลเว็ทเอ๋ย...

เวลเว็ทบุตรแห่งข้า

นามเจ้าแปลว่ากำมะหยี่แสนเลอค่า

เป็นนามอาภรแห่งกษัตริย์ตรา.. ผู้ปกปักษ์รักษา เคียงข้างกายาแห่งพระองค์

เช่นนั้นแล้วเจ้าจงเป็นที่เชิดหน้าชูตา ในฐานะของมังกรแห่งราชันย์....

Monday, June 11, 2018

Ezra : 01



ตัวของผมนั้นไม่ได้เกิดมาจากความรัก

เพราะอย่างนั้นหลังจากที่แม่ได้ให้กำเนิดผมออกมา นางก็เดินทางจากไป...มีเพียงแค่ตัวของผมที่ถูกทิ้งเอาไว้ และได้รับการเลี้ยงดูด้วยคนรับใช้ชั้นผู้น้อยของพ่อ ในขณะที่ตัวของพ่อนั้นต้องการเห็นแค่พัฒนาการของเชื้อสายตัวเองกับสตรีแห่งฟากฟ้าแต่เพียงเท่านั้น

เพื่อให้เป็นลูกชายที่น่าภูมิใจ เพื่อให้ได้รับมาซึ่งคำชมเพียงแค่สั้นๆ และเพื่อให้สายตาคู่นั้นได้มองตรงมา เพราะอย่างนั้นแล้วผมถึงได้พยายาม...พยายามมาตลอด เพื่อหวังว่าซักวันชายคนนั้นถึงจะหันกลับมาหาบ้างซักครั้ง และเพื่อซักวันหนึ่งนั้น...มารดาที่ไม่เคยพบเจอหน้าจะหวนกลับมาหาผมบ้าง มามอบอ้อมกอดและเอ่ยคำปลอบโยนบ้าง..เพียงแค่ซักครั้ง

แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน

สิ่งที่พ่อต้องการคือสิ่งที่สามารถนำไปโอ้อวดต่อผู้คน เป็นสิ่งที่จะทำให้พ่อไม่รู้สึกน้อยหน้าใคร และมันกลายเป็นว่าตัวของผมเองนั้นไม่สามารถจะออกนอกลู่ทางนี้ได้ ไม่อย่างนั้นสิ่งที่รออยู่คงไม่พ้นการถูกกล่าวหาว่าเป็นเพียงแค่สิ่งของที่ไร้ประโยชน์เพียงเท่านั้น...

ตั้งแต่จำความได้รอบตัวของผมไม่เคยมีใคร ไม่เคยมีในสิ่งที่ใครต่อใครต่างก็มี บ้านของผมนั้นเงียบเหงา ทุกมื้อที่โต๊ะอาหารตัวยาวนั้นว่างเปล่า และต่อให้สะดุ้งตื่นมากลางดึกจากฝันร้าย ในบ้านก็ไม่มีใครให้วิ่งไปหาเลยซักคน

ทุกคืนที่ผมลืมตา บนเตียงใหญ่ตัวเดิมนั้นมีแค่ตัวของผมกับความมืดที่มองไม่เห็นจุดสิ่งสุด มีเพียงแค่ตัวผมเพียงลำพัง....


จนวันหนึ่ง..ในสวนต้องห้ามนั้น มือสองคู่ของคนสองคนก็ฉุดผมออกมาจากความเงียบเหงา พวกเขาพาตัวของผมออกจากกรงขังของพ่อให้ออกมาเห็นโลกภายนอกที่แสนกว้างใหญ่และแสนแสบตา... พวกเขาสอนผมให้ได้รู้ว่าคำว่าเพื่อนนั้นเป็นเช่นไร...

แบล็คสเปสนั้นเป็นเพื่อนที่ดีแม้จะชอบทำเรื่องที่น่าปวดหัว ออกัสตัสนั้นรักทุกคนที่สุดและพร้อมที่จะให้อภัยกับทุกคน เบลาทริซนั้นก๋ากั่น..นางแสบยิ่งกว่าผู้ชายคนไหนที่เขาเคยพบ แซตเทอเดย์ถึงจะประหลาดแต่ก็ฉลาดและอ่านสถานการณ์ออก แดเนียลเป็นเด็กจอมโลเลที่มีทั้งพรสวรรค์และอนาคตที่ยาวไกล......และเอด้า....ตัวทดลองที่อ่อนโยน...อ่อนโยนที่สุดมากกว่าใครๆ...


คนพวกนั้นคือ เพื่อนกลุ่มแรก...และกลุ่มสุดท้ายที่ผมมี เป็นเพียงมิตรสหายเพียงหยิบมือของผมที่ไม่มีใครคนอื่นสามารถเข้ามาแทนที่ตรงนั้นได้

หากว่าเวลานั้นเป็นนิรันดร์...มันก็คงดีมากทีเดียว....


แต่ไฟจากสงครามที่พวกเราไม่ได้ก่อนั้นรุนแรงกว่าที่ผมคิด เปลวไฟขนาดใหญ่นั้นเผาผลาญและฉีกกระชากกลุ่มของพวกเราให้แตกกระจาย ผมที่ไปไหนไม่ได้ทำเพียงแค่ชี้นิ้วบอกเส้นทาง...บอกทางออกจาก "กรงนก" ขนาดใหญ่นี้ ออกจาก "สวนอีเดน" แห่งนี้ไปสู่นอกกำแพงที่สูงตระหง่านที่ตัดโลกของพวกเราให้ขาดออกจากกัน

หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้พบกับเอด้า...

เอด้าไม่ใช่คนเดิม เธอเปลี่ยนแปลงไปจากการทดลอง กลายเป็นเพียงตุ๊กตาที่มีชีวิต เป็นเพียงอาวุธที่ไม่มีความรู้สึก...มันยากที่จะดึงเธอมาอยู่ข้างตัว ยากที่จะปกป้องเธอไว้โดยไม่ให้ใครสงสัย...

มันยาก...ในเมื่อทุกย่างก้าวของผมเองก็ถูกจับจ้องด้วยสายตาของคนมากมายที่พร้อมจะกระชากผมลงมาทุกเมื่อ


...แต่แล้ววันหนึ่ง...

เธอเองก็จากไป....


ออกไปจากสถานที่แห่งนี้และโผบินกลับขึ้นไปสู่ฟากฟ้า..เหลือเพียงแค่ผมในกรงนกกรงเดิม.....

.....กับดวงตามากมาย....



Yonagi : 01


ในโลกที่มืดมิดใบนี้ สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดและเปราะบางที่สุดในเวลาเดียวกันนั้นคือความรัก

โยนากิไม่มีเหตุผลจะไม่เชื่อในเรื่องความรัก เพราะตัวตนของเขาครั้งหนึ่งมันก็เกิดขึ้นมาจากความรัก เพียงแต่คำว่ารักที่เขารู้จัก กับคำว่ารักที่เขาได้เห็นผ่านช่วงชีวิตทั้งหมดมานั้นมันเรียกใช้คำนิยามอย่างปกติไม่ได้เลย

ออกัสตัส - พ่อของชาลานั้นถึงจะดูรักและเอาใจใส่ในตัวลูกและภรรยา แต่สายตาที่เขามองดูแมวจรจัดจากเสรีนั้นช่างปวดร้าว มันเป็นความปรารถนาอยากจะโอบกอดไว้ อยากที่จะสัมผัส

ในขณะที่สายตาที่อีกฝ่ายมองตอบกลับไปนั้นช่างแตกร้าวและแหลกสลาย ชายคนนั้นมองดูคนที่ตนรักที่สุดในชีวิตหันหลังให้ตนเองที่ตายจากไปเพื่อเยียวยาบาดแผลในจิตใจที่พังยับเยิน การกลับคืนมาจากความตายอีกครั้งนั้นคือความผิดพลาดที่ใหญ่หลวง... เป็นความผิดที่ไม่สามารถที่จะแก้ไข

ด้วยความรับผิดชอบของความผิดหวัง พวกเขาต่างทำลายความรักของกันและกันจนยับเยิน และทิ้งรอยแผลเป็นไว้เป็นทางยาวอย่างไม่อาจจะสมาน


ในอีกทางหนึ่งนั้น.. โยชิมิซัง -- พ่อของเขานั้น ได้แต่งงานกับแม่ ดูแลและทำทุกอย่าง พวกเขาทั้งสองต่างหลบหนีมาจากนรกในวันที่ทุกคนต่างปรารถนาจะสังหารพวกเขาสิ้นเสีย

พ่อต้องแบกรับการถูกตราหน้าว่าทรยศ หันหลังและทอดทิ้งพวกพ้องเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว การก่อร่างสร้างตัวกันในสถานที่ใหม่นั้นหนักหนาแสนสาหัส พวกเขานั้นทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งการยอมรับ...

แต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง พ่อกลับเลือกจะปลิดชีพตนเองในปีที่เขาใกล้จะเกิด พ่อเขียนทุกสิ่งทุกอย่างลงในจดหมาย สารภาพความแตกร้าวและความผิดบาปในจิตใจที่ต้องแบกรับไว้ ...ชายผู้นั้นยอมทอดทิ้งชีวิตใหม่ที่ใกล้จะลืมตาดูโลกเพื่อจมปลักอยู่ในอดีต

พ่อเสียชีวิตในการปฏิบัติภารกิจ...และกลับมาจากความตายตอนเขาอายุได้เจ็ดปี ชายในภาพถ่ายผู้นั้นเหมือนถูกหยุดเวลาไว้กับที่ ส่วนแม่ที่ร่ำร้องจนลงไปทรุดนั่งอยู่กับพื้นก็ให้อภัย...และพวกเขาทั้งสองก็พยายามประคับประคองความสัมพันธ์เก่าๆนั้นให้ประสานกลับมา

ในขณะที่ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นนั้น ความผิดพลาดในวันเก่าของพ่อก็ไล่ตามจนทัน ฝันร้ายของผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเขานับถือสุดหัวใจได้มาหยุดอยู่ที่หน้าประตู และคร่าชีวิตมารดากับน้องน้อยของเขาต่อหน้าชายคนนั้นที่ไร้พลังจะต่อต้าน

เขาโกรธและแค้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาอ่อนแอ...และหวาดกลัว

แต่ที่เจ็บที่สุดก็คงตอนที่ได้เห็นสายตาของพ่อที่มองไล่ตามหลังอสุรกายตนนั้นเสียมากกว่า สายตาของผู้ที่ใกล้จะขาดใจ...และปรารถนาให้คนผู้นั้นหันกลับมา....


นั่นคืออีกหนึ่งความรักที่เขาได้เห็น เป็นความรักที่เขาไม่ปรารถนาที่จะเข้าใจ หากรักแล้วทิ้งทำไม รักแล้วทำไมไม่เฝ้ารอ นั่นเพราะตนไม่สามารถที่ตะก้าวไปต่อได้อย่างนั้นเหรอ...เขาไม่ทราบเลย

แต่โยนากิก็เชื่อว่าความรักมีอยู่จริง มีกลุ่มคนมากมายที่ต่างสมหวังในรัก ผิดหวังในรัก ไล่ตามหาและไขว่คว้าความรัก และทอดทิ้งเหยียบย่ำความรักของผู้คน

เขาที่เริ่มเติบโตนั้นได้มองเห็นเรื่องราวต่างๆที่แตกต่างกัน นิยามความรักที่ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงสีสันของความรักเองก็ด้วย...มันงดงาม แต่ก็น่าขยะแขยง

หากต้องการจะรักนั้นก็ควรเตรียมตัวที่จะเจ็บ หากปรารถนาความภักดีก็ควรเตรียมตัวที่จะเสียใจ หากได้พบ..ก็ควรได้รู้ว่าซักวันต้องลาจาก และตัวเลือกหลังจากนั้นก็คือขวากหนามทั้งสิ้น

เขาจึงไม่ปรารถนาที่จะมีรัก แม้จะมีผู้คนมากมายหยิบยื่นมันให้กันเขาก็ตาม

จนหมอนั่น...เดินเข้ามา..




ฟาบิโอ้เป็นหนึ่งในลูกน้องที่เขาเลือกออกมาด้วยตัวเอง

หมอนั่นที่มีเชื้อสายจากโรดอส -- ดินแดนแห่งท้องทะเล เป็นชายตัวสูง ขับบิ๊กไบค์ เป็นสตอกเกอร์ และเชื่อฟังเขายิ่งกว่าใคร

ฟาบิโอ้เคยเอ่ยกับเขาในวันหนึ่งเมื่อครั้งอดีต อีกฝ่ายเอ่ยขอถึงความปรารถนาหนึ่งที่เขาไม่เคยคิดถึง ในขณะที่มองดวงตาที่คู่นั้นเขารู้สึกแปลกประหลาดใจ แต่ด้วยการยืนยันที่ไร้ข้อสนับสนุนทำให้เขาไม่คิดที่จะเชื่อถือ เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ยื่นข้อเสนอและบททดสอบให้อีกฝ่าย

โดยการส่งฟาบิโอ้ไปทำภารกิจฆ่าตัวตาย

ถ้ากลับมาได้โยนากิก็คิดว่าคู่ควรที่จะลองดูต่อไปอีกซักหน่อย แต่หากไม่ก็แค่เสียลูกน้องฝีมือดีไปซักคน ถึงจะฟังดูน่าเสียดาย แต่การหาคนใหม่มาทดแทนในช่วงเวลานี้ก็ไม่น่าจะยากซักเท่าไหร่นัก

แต่ก็ช่างน่าชื่นชม อีกฝ่ายยังคงกลับมาหา และกลับมา ทุกครั้งที่เขาส่งออกไป ไม่ว่าจะเป็นภารกิจไหน แต่อีกฝ่ายก็จะกลับมาหาเขาทุกครั้ง ไม่เคยบ่น ไม่เคยปฏิเสธ ไม่เคยหลบหนีหรือบอกยกเลิกคำขอ เป็นเหมือนสุนัขที่แสนจะเชื่อฟัง

...มันทำให้เขารู้สึกดีเหลือเกิน


และบททดสอบสุดท้ายก็ตามมา

"จงอย่าให้มีใครคนอื่นสำคัญกว่าฉัน"

ด้วยคำคำนั้น อีกฝ่ายก็น้อมรับและทำตามเป็นอย่างดี ทุกคนสำคัญ ทุกสิ่งสำคัญ ครอบครัวที่แสนจะรักยิ่งนั้นถูกชักนำให้เดินทางไปสู่จุดจบโดยที่มือของพวกเขาทั้งคู่ไม่เปื้อนเลือดซักหยด เป็นการลาจากที่แสนเรียบง่าย ไม่เหวือหวา แม้เสียงจะดังเกินไปซักเล็กน้อยแต่ก็มากพอจะทำให้โยนากิขยับยิ้มที่งดงามที่สุดในสายตาของฟาบิโอ้

และตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่พวกเขาสองคนจมดิ่งลงไปในความรู้สึกที่ยากจะบอก จมลึกลงไปในความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

พวกเขาทั้งสองต่างก็จมหายลงไป และถูกรัดด้วยโซ่ตรวนที่รัดแน่นจนหายใจไม่ออก มันบีบรัดร่างของคนทั้งสองเข้าด้วยกันจนไม่อาจจะแยกจาก

โยนากิไม่เคยคิดว่าตนจะมาถึงในจุดนี้ ในจุดที่เขายินยอมจะเปิดหัวใจให้กับใครซักคน

ในจุดที่ถูกขโมยไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง...

ในจุดที่.......ทุกอย่างนั้นบ่าคลั่งและว่างเปล่า

ในจุดที่มีเพียงแค่ "เรา"


นอเทิลไลท์ 18/6/59

ไปค้นเจอฟิคเก่าของนอเทิลไลท์มา เป็นฟิคจาก AU หลักของน้อง เขียนไว้ตอนวันที่ 18/6/59 แล้วพอดีสตอรี่ของแบล็คมีการอัพเดท เลยไปขุดมานั่งแกเพิ่มเติม แล้วก็เลยมาแบ่งบัน

---------------------------------------------------------------------

ฉันมองปืนสีทองบนตัก สัมผัสของมันเย็นเฉียบยิ่งกว่าน้ำแข็ง....

นี่คือสิ่งที่ 'เขา' ได้มอบให้แก่ฉัน เพื่อให้ฉันได้ทำลายความอ่อนแอพวกนั้น..

ฉัน...แค่จับมัน มองมัน... ไม่ใช่ว่าไม่รู้วิธีใช้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้วิธีจับ..

ฉันรู้ว่ามันใช้ยังไง ฉันรู้วิธีสับไกปืน วิธีทำความสะอาด วิธีใส่กระสุน...

ฉันรู้วิธีเล็ง และฉันก็รู้วิธีที่จะยิง..

แม้ว่าตัวฉันจะไม่เคยได้รับอนุญาตให้จับถือ เพราะพี่ชายบอกว่าจะปกป้องเอง.. เพราะพี่ชายบอกว่าให้คนที่แปดเปื้อนคือเขาเอง...คือเขาเพียงคนเดียว

แต่หลังจากที่ฉันเสียพี่ไป 'คนคนนั้น' ก็ยินยอมที่จะสอนให้ฉันใช้มัน ถึงฉันจะไม่ได้เก่งกาจเหมือนใคร ถึงฉันจะทำได้เพียงแค่ป้องกันตัว แต่ 'คนคนนั้น' ก็บอกกับฉันว่าไม่เป็นอะไร เขาสอนฉัน แต่ก็เพียงเท่านั้น

ฉันรู้ว่า 'คนคนนั้น' ยอมที่จะมอบทุกอย่างให้กับฉัน ทุกอย่างที่พี่ชายไม่เคยปรารถนา ก็เพราะว่าเขารู้สึกผิดที่ช่วยพี่ไว้ไม่ได้ เพราะเขารู้สึกผิดที่พาพี่กลับมาไม่ได้ และเพราะเขารักพี่มาก..มากที่สุด มากยิ่งกว่าใคร เขาถึงได้ทำตามคำขอร้องของฉัน เพราะว่าฉันเป็นน้องของพี่

เพราะ 'คนคนนั้น' ไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของฉันได้อีกต่อไป โลกที่ไม่มีพี่อยู่ด้วยอีกแล้ว 'คนคนนั้น' ไม่มีทางที่จะไม่ทำตามในสิ่งที่ฉันขอ

ฉันรู้สึกผิดเวลาเห็นสีหน้าของเขา และฉันก็รู้สึกผิดที่ไม่สามารถเป็นในสิ่งที่พี่ต้องการ แต่ฉันไม่สามารถรอให้ทุกอย่างจบลงอย่างนี้ได้

ฉันไม่สามารถยอมรับตัวตนของตัวฉันที่พิการอยู่อย่างนี้ได้

ฉัน...อยากจะทำอะไรซักอย่างเพื่อพี่ชาย....เพื่อตัวของฉันเอง

.....

แล้วพี่ชายก็กลับมา..

พี่ชายกลับมาหาฉัน กลับมาจากความตายนั่น แล้วพี่ก็บอกกับฉันว่าไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้ว จะไม่มีใครมาทำอันตรายฉันตราบเท่าที่พี่ยังอยู่ตรงนี้ และฉันก็วางปืนลง...

เพราะพี่ไม่ต้องการให้มือของฉันนั้นหยาบกร้านหรือแข็งกระด้าน เพราะพี่ไม่อยากให้ฉันต้องแปดเปื้อนและร่วงหล่น...เพราะพี่ชายอยากให้ฉันเป็นเพียงแค่คนเดียวที่ยังคงสะอาด ให้เป็นแสงสว่างในโลกที่มืดมิดใบนี้ของพี่

แต่...

ฉัน...ไม่อยากที่จะเป็นแค่คนที่คอยถ่วงแข้งถ่วงขา ไม่อยากจะเป็นแค่คนที่ทำให้พี่อ่อนแอขึ้นไปมากกว่านี้

ฉันรักพี่.. ฉันรักพี่มาก.. พี่ดูแลและให้ฉันทุกอย่าง พี่อ่อนโยนกับฉันเสมอ และยอมทำตามแทบทุกสิ่งที่ฉันขอ แต่......

ฉันก้มมองขาตัวเอง...

แค่จะขยับก็ยังทำไม่ได้.. และมันก็เจ็บ.. เจ็บและพันไว้ด้วยผ้าพันแผลจากความโง่ของฉัน ความไว้ใจมากเกินไปของฉัน.....และนั่นทำให้พี่ของฉันเจ็บปวด

แต่ฉันได้เลือกแล้ว ฉันได้เลือกไปแล้ว.....

พี่คะ...ขอโทษนะคะ..

....

ในความฝันนั้น ฉันยังจำได้เสมอ พี่ชายบอกว่าฉันนั้นเหมือนเจ้าหญิง เจ้าหญิงที่เป็นแก้วตาดวงใจของพี่... เป็นโลกทั้งใบของพี่ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่จะไม่สามารถหาได้ในโลกที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะอย่างนั้นพี่ถึงได้รักและหวงฉันมาก..มากที่สุด

แต่ฉันไม่อยากจะเป็นเจ้าหญิงของพี่... ฉันไม่อยากจะเป็นแค่เจ้าหญิงที่ทำอะไรไม่ได้แบบนี้

...เอาตามตรง ตัวฉันไม่ใช่เจ้าหญิง....ไม่ใช่เลย....ฉันไม่เคยคิดเลยซักนิด

..ฉันเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนนึง ที่มีแต่ได้รับ โดยไม่เคยได้ให้สิ่งใดตอบกลับไปต่างหาก... และทุกคนเองก็มองฉันผ่านมุมมองของพวกเขาทั้งนั้น

'คนคนนั้น' มองเพียงแค่เงาของพี่ผ่านตัวของฉัน เพราะเขาเสียพี่ไปและฉันยังคงอยู่ เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ต้องการจะชดเชยทุกอย่างกับตัวของฉัน
'เขา' อีกคน บอกว่าฉันเห็นแก่ตัวและเกะกะ ฉันเป็นเพียงตัวถ่วงที่ทำให้พี่มีแต่ห่วง แันที่ทำอะไรไม่ได้เลยนั้นเหมือนกับหนอนแมลง...ไร้ค่ายิ่งกว่าอะไร
'เธอ' บอกว่าฉันไม่สมควรที่จะอยู่ ฉันไม่ควรค่าที่จะมีชีวิตบนโลกใบนี้ ฉันไม่สมควรจะอยูเคียงข้างพี่ของฉัน ไม่สมควรได้รับความรักจากใครทั้งนั้น
'ฉัน' รู้ตัวดีว่าฉันไร้ค่ามากแค่ไหน ฉันทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ได้เลยซักอย่าง เดินด้วยตัวเอง ลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง ก้าวเท้าด้วยตัวเอง....ฉันทำอะไรไม่ได้เลย

ส่วนพี่....
'พี่' บอกฉันว่า.... "ไม่เป็นไร"

...

ฉันไม่อยากจะเป็นเจ้าหญิง....ไม่เคยอยากที่จะเป็น และมันไม่มีทางที่จะเป็น
ฉันไม่เคยอยากที่จะฆ่าใคร เพราะฉันรู้ว่าพวกเขาทุกคนต่างมีคนที่รักและใส่ใจ
ทุกคนมีครอบครัว...มีคนที่รอคอยการกลับไป... เพราะอย่างนั้นฉันถึงไม่อยากจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้คนเหล่านั้นต้องเสียใจ.. เพราะหากมีใครมาทำอะไรพี่อีกครั้ง ฉันเองก็คงจะเสียใจมากเหมือนกัน

แต่ตอนนี้ฉันได้รู้ตัวแล้ว ว่าหากฉันไม่ทำอะไรซักอย่าง คนที่จะเสียใจที่สุดคือตัวของฉันเอง..

ฉันเคยเสียพี่ไปแล้วครั้งหนึ่ง ฉันไม่มีวันที่จะลืมความรู้สึกในตอนนั้น ความเจ็บปวด ความโศกเศร้า ความโกรธแค้น ความรู้สึกมากมายที่พร่างพรูออกมาจากตัวของฉันไว้เหมือนกับพายุ......แต่สิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนั้น ก็มีเพียงแค่ปิดหน้าและร้องไห้จนแทบจะขาดใจ...

ฉันอาจจะฟังดูโลภมากและเห็นแก่ตัว...แต่ฉันจะไม่ยอมปิดหูปิดตา นั่งรอพี่ชายด้วยรอยยิ้มอยู่อย่างนี้อีกแล้ว..

มันไม่สมควร และมันก็ช่างน่าเจ็บปวด

ฉันน่ะ....

...

"โอไรอ้อน.. คือว่าฉัน..."

"ไวทไลท์คะ.. พี่มีเรื่องอยากจะขอร้องค่ะ"

"คุณพอคะ หนู..."

"ตราบาป ขอโทษนะ แต่ว่า..."

"คุณคาเตน่า ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ.."

"คุณจุติคะ ฉันมีเรื่องอยากจะถามซักหน่อย"

"คุณเคน...ได้โปรดเถอะค่ะ"

"..คือว่าฉัน...ฉันอยากที่จะ..."

..

..

..

..

ในตอนนี้มือของฉันเปื้อนไปด้วยเลือด สีแดงจากผู้คนที่ฉันไม่เคนปรารถนาให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ฉันไม่เคยปรารถนาที่จะลุกขึ้นจากรถเข็นของฉันเพื่อเหยียบลงบนซากศพมากมายเหมือนอย่างตอนนี้ ฉันไม่เคยต้องการที่จะคร่าชีวิตของใคร

แต่ฉันไม่ใช่เจ้าหญิง... ไม่ใช่เจ้าหญิงของพี่ ไม่ใช่ตัวถ่วงของพี่

ฉันอยากจะยืนเคียงข้างพี่ ก้าวไปกับพี่ และอยู่เคียงข้างกับพี่ต่อไปอีกซักนิด...

หากพี่ชายต้องจมลงไปในความมืดอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว ฉันคนนี้ก็อยากที่จะจมลงไปด้วยกันกับพี่ เป็นแสงดาวของพี่ที่ฉันรักแม้แต่ในห้วงลึกที่ลึกที่สุดในโลกใบนี้

ฉันจะพยายามประคองตัวเอง จะพยายามจะสองแสง

ฉันจะจับมือพี่ไว้ จะยังคงยิ้มให้กับพี่

จะไม่ยอมสูญเสียอีกต่อไปแล้ว...

....

และเพราะว่าเวลาของพี่กับฉันนั้นไม่เท่ากัน เวลาของพี่และฉันมันห่างจากกันมาก เพราะอย่างนั้นจนกว่าจะถึงวันที่ฉันเป็นเพียงแค่ภาพภาพหนึ่งในความทรงจำของพี่ ฉันก็อยากที่จะทำอะไรให้พี่บ้าง

พี่คะ... น้องสาวคนนี้ของพี่ยังคงรักและเฝ้ามองพี่เสมอ เฝ้ามองแผนหลังของพี่อยู่ตลอด ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้

พี่คะ.. พี่เสียใจรึเปล่าที่ตอนนี้น้องสาวของพี่มายืนอยู่ในจุดเดียวกับพี่แบบนี้

พี่คะ...

ฉันเองก็เป็นน้องของพี่นะคะ เพราะอย่างนั้น...ได้โปรด..... อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ

'คนคนนั้น' เองก็คงจะคิดเหมือนกับฉัน

'คนคนนั้น' ไม่ต้องการจะเห็นพี่เป็นอย่างนี้หรอกนะคะ

เพื่อตัวของพี่ เพื่อตัวของฉัน เพื่อ'คนคนนั้น' และเพื่อผู้คนมากมายที่สำคัญต่อเรา

เพื่อพวกเขาแล้ว... ฉันจะไม่ยอมอ่อนแออย่างนี้อีกต่อไปแล้วค่ะ

เพราะอย่างนั้น..พี่ก็ช่วยยอมรับการตัดสินใจนี้ของฉันด้วยนะคะพี่ชาย...