Monday, June 11, 2018

Yonagi : 01


ในโลกที่มืดมิดใบนี้ สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดและเปราะบางที่สุดในเวลาเดียวกันนั้นคือความรัก

โยนากิไม่มีเหตุผลจะไม่เชื่อในเรื่องความรัก เพราะตัวตนของเขาครั้งหนึ่งมันก็เกิดขึ้นมาจากความรัก เพียงแต่คำว่ารักที่เขารู้จัก กับคำว่ารักที่เขาได้เห็นผ่านช่วงชีวิตทั้งหมดมานั้นมันเรียกใช้คำนิยามอย่างปกติไม่ได้เลย

ออกัสตัส - พ่อของชาลานั้นถึงจะดูรักและเอาใจใส่ในตัวลูกและภรรยา แต่สายตาที่เขามองดูแมวจรจัดจากเสรีนั้นช่างปวดร้าว มันเป็นความปรารถนาอยากจะโอบกอดไว้ อยากที่จะสัมผัส

ในขณะที่สายตาที่อีกฝ่ายมองตอบกลับไปนั้นช่างแตกร้าวและแหลกสลาย ชายคนนั้นมองดูคนที่ตนรักที่สุดในชีวิตหันหลังให้ตนเองที่ตายจากไปเพื่อเยียวยาบาดแผลในจิตใจที่พังยับเยิน การกลับคืนมาจากความตายอีกครั้งนั้นคือความผิดพลาดที่ใหญ่หลวง... เป็นความผิดที่ไม่สามารถที่จะแก้ไข

ด้วยความรับผิดชอบของความผิดหวัง พวกเขาต่างทำลายความรักของกันและกันจนยับเยิน และทิ้งรอยแผลเป็นไว้เป็นทางยาวอย่างไม่อาจจะสมาน


ในอีกทางหนึ่งนั้น.. โยชิมิซัง -- พ่อของเขานั้น ได้แต่งงานกับแม่ ดูแลและทำทุกอย่าง พวกเขาทั้งสองต่างหลบหนีมาจากนรกในวันที่ทุกคนต่างปรารถนาจะสังหารพวกเขาสิ้นเสีย

พ่อต้องแบกรับการถูกตราหน้าว่าทรยศ หันหลังและทอดทิ้งพวกพ้องเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว การก่อร่างสร้างตัวกันในสถานที่ใหม่นั้นหนักหนาแสนสาหัส พวกเขานั้นทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งการยอมรับ...

แต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง พ่อกลับเลือกจะปลิดชีพตนเองในปีที่เขาใกล้จะเกิด พ่อเขียนทุกสิ่งทุกอย่างลงในจดหมาย สารภาพความแตกร้าวและความผิดบาปในจิตใจที่ต้องแบกรับไว้ ...ชายผู้นั้นยอมทอดทิ้งชีวิตใหม่ที่ใกล้จะลืมตาดูโลกเพื่อจมปลักอยู่ในอดีต

พ่อเสียชีวิตในการปฏิบัติภารกิจ...และกลับมาจากความตายตอนเขาอายุได้เจ็ดปี ชายในภาพถ่ายผู้นั้นเหมือนถูกหยุดเวลาไว้กับที่ ส่วนแม่ที่ร่ำร้องจนลงไปทรุดนั่งอยู่กับพื้นก็ให้อภัย...และพวกเขาทั้งสองก็พยายามประคับประคองความสัมพันธ์เก่าๆนั้นให้ประสานกลับมา

ในขณะที่ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นนั้น ความผิดพลาดในวันเก่าของพ่อก็ไล่ตามจนทัน ฝันร้ายของผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเขานับถือสุดหัวใจได้มาหยุดอยู่ที่หน้าประตู และคร่าชีวิตมารดากับน้องน้อยของเขาต่อหน้าชายคนนั้นที่ไร้พลังจะต่อต้าน

เขาโกรธและแค้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาอ่อนแอ...และหวาดกลัว

แต่ที่เจ็บที่สุดก็คงตอนที่ได้เห็นสายตาของพ่อที่มองไล่ตามหลังอสุรกายตนนั้นเสียมากกว่า สายตาของผู้ที่ใกล้จะขาดใจ...และปรารถนาให้คนผู้นั้นหันกลับมา....


นั่นคืออีกหนึ่งความรักที่เขาได้เห็น เป็นความรักที่เขาไม่ปรารถนาที่จะเข้าใจ หากรักแล้วทิ้งทำไม รักแล้วทำไมไม่เฝ้ารอ นั่นเพราะตนไม่สามารถที่ตะก้าวไปต่อได้อย่างนั้นเหรอ...เขาไม่ทราบเลย

แต่โยนากิก็เชื่อว่าความรักมีอยู่จริง มีกลุ่มคนมากมายที่ต่างสมหวังในรัก ผิดหวังในรัก ไล่ตามหาและไขว่คว้าความรัก และทอดทิ้งเหยียบย่ำความรักของผู้คน

เขาที่เริ่มเติบโตนั้นได้มองเห็นเรื่องราวต่างๆที่แตกต่างกัน นิยามความรักที่ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงสีสันของความรักเองก็ด้วย...มันงดงาม แต่ก็น่าขยะแขยง

หากต้องการจะรักนั้นก็ควรเตรียมตัวที่จะเจ็บ หากปรารถนาความภักดีก็ควรเตรียมตัวที่จะเสียใจ หากได้พบ..ก็ควรได้รู้ว่าซักวันต้องลาจาก และตัวเลือกหลังจากนั้นก็คือขวากหนามทั้งสิ้น

เขาจึงไม่ปรารถนาที่จะมีรัก แม้จะมีผู้คนมากมายหยิบยื่นมันให้กันเขาก็ตาม

จนหมอนั่น...เดินเข้ามา..




ฟาบิโอ้เป็นหนึ่งในลูกน้องที่เขาเลือกออกมาด้วยตัวเอง

หมอนั่นที่มีเชื้อสายจากโรดอส -- ดินแดนแห่งท้องทะเล เป็นชายตัวสูง ขับบิ๊กไบค์ เป็นสตอกเกอร์ และเชื่อฟังเขายิ่งกว่าใคร

ฟาบิโอ้เคยเอ่ยกับเขาในวันหนึ่งเมื่อครั้งอดีต อีกฝ่ายเอ่ยขอถึงความปรารถนาหนึ่งที่เขาไม่เคยคิดถึง ในขณะที่มองดวงตาที่คู่นั้นเขารู้สึกแปลกประหลาดใจ แต่ด้วยการยืนยันที่ไร้ข้อสนับสนุนทำให้เขาไม่คิดที่จะเชื่อถือ เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ยื่นข้อเสนอและบททดสอบให้อีกฝ่าย

โดยการส่งฟาบิโอ้ไปทำภารกิจฆ่าตัวตาย

ถ้ากลับมาได้โยนากิก็คิดว่าคู่ควรที่จะลองดูต่อไปอีกซักหน่อย แต่หากไม่ก็แค่เสียลูกน้องฝีมือดีไปซักคน ถึงจะฟังดูน่าเสียดาย แต่การหาคนใหม่มาทดแทนในช่วงเวลานี้ก็ไม่น่าจะยากซักเท่าไหร่นัก

แต่ก็ช่างน่าชื่นชม อีกฝ่ายยังคงกลับมาหา และกลับมา ทุกครั้งที่เขาส่งออกไป ไม่ว่าจะเป็นภารกิจไหน แต่อีกฝ่ายก็จะกลับมาหาเขาทุกครั้ง ไม่เคยบ่น ไม่เคยปฏิเสธ ไม่เคยหลบหนีหรือบอกยกเลิกคำขอ เป็นเหมือนสุนัขที่แสนจะเชื่อฟัง

...มันทำให้เขารู้สึกดีเหลือเกิน


และบททดสอบสุดท้ายก็ตามมา

"จงอย่าให้มีใครคนอื่นสำคัญกว่าฉัน"

ด้วยคำคำนั้น อีกฝ่ายก็น้อมรับและทำตามเป็นอย่างดี ทุกคนสำคัญ ทุกสิ่งสำคัญ ครอบครัวที่แสนจะรักยิ่งนั้นถูกชักนำให้เดินทางไปสู่จุดจบโดยที่มือของพวกเขาทั้งคู่ไม่เปื้อนเลือดซักหยด เป็นการลาจากที่แสนเรียบง่าย ไม่เหวือหวา แม้เสียงจะดังเกินไปซักเล็กน้อยแต่ก็มากพอจะทำให้โยนากิขยับยิ้มที่งดงามที่สุดในสายตาของฟาบิโอ้

และตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่พวกเขาสองคนจมดิ่งลงไปในความรู้สึกที่ยากจะบอก จมลึกลงไปในความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

พวกเขาทั้งสองต่างก็จมหายลงไป และถูกรัดด้วยโซ่ตรวนที่รัดแน่นจนหายใจไม่ออก มันบีบรัดร่างของคนทั้งสองเข้าด้วยกันจนไม่อาจจะแยกจาก

โยนากิไม่เคยคิดว่าตนจะมาถึงในจุดนี้ ในจุดที่เขายินยอมจะเปิดหัวใจให้กับใครซักคน

ในจุดที่ถูกขโมยไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง...

ในจุดที่.......ทุกอย่างนั้นบ่าคลั่งและว่างเปล่า

ในจุดที่มีเพียงแค่ "เรา"


No comments:

Post a Comment