เอนทรีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
The Thief of Baramos fan commu
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
0.
การเขียนจดหมายนั้นไม่ยาก การทำใจส่งต่างหากที่ยากเสียกว่า
ในเวลาที่ผ่านมาโทไบอัสมีจดหมายที่ไม่ได้ส่งอัดแน่นอยู่ในกล่องใต้เตียงถึงสามกล่องใหญ่ๆ เขาเขียนมันแทบทุกวันเพื่อบอกเล่าเรื่องราวมากมาย และเพื่อบอกเล่าถึงความอ่อนแอของตัวเอง แต่มันก็ไม่เคยถูกส่งไปไหน นอกจากถูกผนึกลงซองที่ไร้ที่อยู่ และโยนเก็บลงกล่องไปอย่างนั้น
โทไบอัสเริ่มต้นเขียนเมื่อเหยียบเข้ามาที่เอดินเบิร์ก เขาเขียนเล่าถึงเรื่องความรู้สึก เรื่องเรียน เรื่องงานพิเศษ เรื่องคนรอบตัว เขานั่งคิดอยู่เป็นวันว่าจะต้องเขียนภาษาแบบไหน จะต้องเล่ายังไง แต่มันก็เหมือนกับความตั้งใจที่ว่างเปล่า เมื่อสุดท้ายแล้วจดหมายพวกนั้นก็ไม่ได้ถูกส่งไปไหนเสียที
จะเรียกว่าการเตรียมใจไหม...ก็คงไม่
แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเขียนจดหมายส่งกลับบ้านตอนกลางปีที่สามของโรงเรียนพระราชา...เพราะความเหนื่อยล้าจากหลายสิ่งที่ถาโถมเข้ามาจนเขาอยากจะพูดคุยกับใครซักคน และสุดท้ายเขาก็เลือกคนที่เขาไม่คิดว่าจะติดต่อไปหาไวถึงขนาดนี้..
คนที่เขาทิ้งให้อยู่ตัวคนเดียวมากว่าสามปี..
1.
ถึง ไอแวน เซปาร์
หลังจากผ่านไปเกือบสามปี น้องชายผู้โง่เง่าของท่านก็เขียนจดหมายมาหาท่านแล้ว
จดหมายฉบับนี้คงยาวมากพอดูเพราะข้าเขียนทบในส่วนของสองปีที่หายไป แต่ถ้าท่านไม่อยากอ่าน ก็โยนมันลงกองไฟไปซะ และไม่ต้องตอบอะไรกลับมา ข้าจะได้ถือว่าท่านปฏิเสธที่จะรับรู้สิ่งที่ข้าต้องการจะเล่า และให้ข้าเลิกทำตัวงี่เง่าเหมือนเด็กไม่ยอมโตซักที
ข้ารู้ว่าระยะเวลาสองปีกว่ามันนานมากเกินไป และการที่ข้าไม่ติดต่ออะไรมาเลยท่านก็อาจจะโกรธ แต่ตอนที่ท่านเรียนโรงเรียนพระราชานั่นสามสี่ปี ท่านก็ไม่ติดต่ออะไรกับมาเลยเหมือนกัน เพราะอย่างนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรข้าหรอก
แต่เพราะว่าข้าไม่ได้ติดต่อกับท่าน มันก็เลยทำให้ข้าได้คิดทบทวนอะไรอีกมาก และการทำงานก็ทำให้ข้าไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องอะไรมากมายให้รกสมองไปมากกว่านี้ พี่อาจจะเห็นว่ามันฟังดูงี่เง่าที่ข้าใช้เวลากว่าหกปีในการพยายาม แต่สำหรับข้า เวลาแค่หกปีมันยังไม่พอ ข้ายังคงคิดเรื่องในวันที่เห็นชายคนนั้นห้อยตัวลงมาจากเพดานด้วยเชือกเส้นเดียว เหมือนกับโคมไฟที่ไร้แสง แห้งกรอบและน่าอดสู
แล้วมันก็ทำให้ข้าคิด กว่าพวกเราจะมาถึงจุดนี้ กว่าตัวข้าจะมาเป็นตัวข้าในตอนนี้ กว่าตัวพี่จะมาเป็นตัวพี่ พวกเราต่างก็ทิ้งอะไรต่อมิอะไรมามากมาย ทั้งวันที่ผู้คนรอบข้างทอดทิ้งพวกเรา ทิ้งวันที่พวกเราตัดความหวังและทิ้งพ่อให้จมปลักในความมืด ทั้งวันที่พ่อเลือกจะฆ่าตัวตายทิ้งพวกเราเอาไว้เพราะนึกว่าถูกราชินีทอดทิ้ง หรือจะเป็นพวกเราที่ทิ้งพวกพี่และน้องสาวให้อยู่ในความดูแลของราชินี แล้วคารอสก็ทิ้งพวกเราไปซาเรส แล้วข้าก็ทิ้งพี่ให้อยู่ที่สลัมในบารามอส
พวกเราต่างทิ้งและถูกทอดทิ้ง ทั้งจากความรัก ครอบครัว และมิตรสหาย โลกของข้าเปลี่ยนตั้งแต่หกปีก่อน เงาของความมืดทอดยาวปกคลุมทุกอย่าง มันทำให้ข้าได้เห็นอะไรมากกว่าที่ควรจะเห็น ข้ารู้ว่าตัวพี่เองก็เช่นกัน
และมันอาจจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีวันสิ้นสุดก็ได้ และในซักวันหนึ่งข้างหน้า ข้าเองก็อาจจะทิ้งอะไรบางสิ่ง เหมือนที่ข้าเคยทิ้งความฝันของข้าไป และข้าอาจจะใกล้ถูกบางอย่างทอดทิ้ง เหมือนอย่างเช่นความเข้มแข็งที่ข้ายังคงพยายามยึดเหนี่ยวไว้
ข้าทรมาน เหมือนกับท่าน ข้ายังคงเป็นเสมอ
ทุกคืนที่ข้าเฝ้าเขียนจดหมายที่ไม่ได้ส่ง ข้ารู้สึกแย่ ข้าอยากจะทำลายมัน แต่ก็ทำไม่ได้ แต่พอจะส่ง ข้าก็ไม่สามารถจะทำใจส่งไปได้เช่นกัน สุดท้ายก็ได้แต่เขียนจดหมายทุกคืนๆ ให้มันกองอยู่ในกล่องที่ใต้เตียง ก็คงจะมีแต่ฉบับนี้ละมั้งที่ข้าส่งมาหาพี่ ข้าทำใจอยู่นานมาก ถ้าท่านอ่านมาถึงตรงนี้ ข้าก็อยากจะบอกว่าดีใจที่ท่านยังสนใจในเรื่องของข้า
และข้าไม่ได้อยากจะพูดคำนี้นัก แต่ข้ากำลังต้องการความช่วยเหลือจากท่าน ข้าต้องการคำแนะนำของท่าน แม้ว่าที่นี่จะมีใครต่อใครที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือข้า แต่ข้ารู้ตัวดีว่าข้าจะไม่ยอมรับความเห็นอกเห็นใจและเชื่อฟังพวกเขา ข้ารู้ว่าข้าดื้อแค่ไหน และข้ารู้ว่าข้ามีทิฐิสูงแค่ไหน เพราะอย่างนั้นข้าจึงคิดว่าคนที่ข้าควรจะคุยมากที่สุด หากไม่ใช่เมริดิธก็คงจะเป็นท่าน
ตอนนี้สายตาของข้ากำลังจะมืดบอด ท่านพี่
การอยู่ที่นี่ทำให้ข้าได้มองเห็นประกายไฟในตัวเด็กพวกนี้ มันกำลังลุกโชน สว่างไสว ในขณะที่แสงของข้ากำลังริบหรี่ลง ข้ารู้ตัวเองดี
การได้เห็นพวกเขาพยายามไล่ตามความฝัน พยายามทำตามหน้าที่ของตัวเอง มันทำให้ข้ามีความสุข มันทำให้ข้ายิ้ม อยากจะเห็นพวกเขาในอนาคต อยากจะเห็นพวกเขาไปต่อ ในทุกวันที่ข้าได้ฝึกพวกเขา ได้พูดคุยและสั่งสอน มันทำให้ข้ารู้สึกเหมือนข้าได้กลับมาเป็นพี่ชายอีกครั้ง เป็นพี่ชายของคารอส เรเน่ เซียด้า เป็นพี่ชายที่เข้มแข็ง เป็นพี่ชายที่พวกเขาสามารถเรียกหาได้ในยามที่มองหาทางข้างหน้าไม่เจอ หรือเจอกับปัญหา ถึงแม้บางคนจะไม่ได้ชอบข้าก็ตามที (หัวเราะ)
ข้าสนุก ท่านพี่ ข้ามีความสุข ข้าอยากจะใช้เวลากับพวกเขาให้มากกว่านี้ อยากจะคอยสั่งสอนอะไรต่างๆให้มากกว่านี้ ข้าอยากจะช่วยพวกเขามากกว่านี้ มันช่างฟังดูย้อนแย้งนะพี่ว่าไหม ข้าอยากช่วยพวกเขา แต่ข้าไม่อยากให้พวกเขาช่วยเหลือ แต่ข้าเป็นคนดื้อ พี่เองก็รู้ดี
แต่การจะทำตัวเป็นพี่ชายของใครซักคน พี่คิดว่ามันเหมาะสมรึเปล่า พี่คิดว่าสามคนนั้นจะงอนข้าไหม ไม่ได้พูดถึงเรื่องว่าคนเหล่านั้นจะยอมรับข้ารึเปล่าหรอกเพราะข้าไม่ได้สนใจนัก ข้าแค่ทำในสิ่งที่อยากจะทำ
พี่ว่ามันสมควรรึเปล่า
พี่คิดว่าข้าควรจะพักได้แล้วรึยัง
ลงชื่อ โทไบอัส เซปาร์
2.
ถึง โทไบอัส เซปาร์
ข้าดีใจที่เจ้ายอมเขียนจดหมายมาคุยกับข้า และเลือกข้าแทนที่จะเป็นเมริดิธ แต่เรื่องเงินที่เจ้าส่งมาให้ทุกเดือนนั้นเจ้าควรเก็บไว้ใช้เองเสียบ้าง เงินทุกเหรียญเป็นของเจ้า เจ้าเป็นเจ้าของ ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังพยายามชดเชยการที่เจ้าเลือกจะเข้าเรียนที่บารามอสเพื่อไล่ตามในสิ่งที่ตนต้องการเมื่อตอนอายุสิบห้าแล้วทิ้งข้าไว้ที่นี่ และข้าก็รู้ดีว่าเจ้าต้องทำงานหนักมากแค่ไหน แต่ในตอนนี้ข้าเองก็เดินต่อไปแล้วเหมือนกัน
จงอย่าหักโหมเกินไปนักโทไบอัส ถึงการทำงานจะทำให้เจ้าลืม แต่มันก็ชั่วคราว ไม่มีใครที่จะวิ่งหนีได้ตลอดไป ทั้งข้า ทั้งเจ้า พวกเรามีเส้นทางของเราและพวกเรายังคงอยู่บนเส้นทางนั้น ถึงแม้อนาคตจะมีเส้นทางใหม่มาให้เจ้า แต่ทางที่ผ่านไปแล้วมันจะอยู่ติดตัวเจ้าตลอดไป สิ่งที่เจ้าควรมองในตอนนี้ไม่ใช่เบื้องหลัง แต่เป็นข้างหน้า ทำอย่างที่เจ้าเคยทำมาเสมอ และอย่ากังวลเรื่องของข้าอีก
ข้าเป็นห่วงเจ้า คนอื่นเองก็เป็นห่วงเจ้าเช่นกัน ทั้งเจ้าทั้งคารอสต่างก็พยายามกันมาตลอด เพราะอย่างนั้นข้าไม่เห็นว่ามันจะงี่เง่าตรงไหน ไม่งี่เง่าเลย พวกเจ้าเป็นน้องที่พวกเราต่างภูมิใจ
ข้าต่างหากที่เป็นพี่ชายที่แย่ ข้าเป็นส่วนหนึ่งที่ฉุดรั้งเจ้าเอาไว้ด้วยหน้าที่และความสัมพันธ์ แต่อยากให้เจ้ารู้
และเจ้าดูมีความสุขกับทางโรงเรียนก็ดีแล้ว วันหลังเขียนเล่าเรื่องที่นั่นมาให้ข้าฟังเสียบ้าง
ลงชื่อ ไอแวน เซปาร์
3.
ชายหนุ่มหยุดมือ เขายกปากกาค้างไว้อย่างครุ่นคิดกับข้อความสั้นๆแค่ครึ่งหน้ากระดาษ แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะตัดจบจดหมายนั้นหลังอ่านทบทวนอยู่ถึงสามครั้ง ไอแวนดับเทียนไขและนั่งอยู่ในความมืดอย่างนั้น ควันสีขาวที่กระทบกับแสงภาพนอกขยับไหวราวกับผืนผ้าขาว เขาหลุบตา
ความเข้มแข็งกับความอ่อนแอ จะตัวเขาหรือน้องชายต่างก็มีกันทั้งนั้น เอาตามตรง ตลอดสามปีที่ผ่านมาพวกเขาเหมือนกำลังเล่นสงครามประสาทใส่กัน
โทไบอัสไม่ส่งจดหมายใดกลับมาหา มีเพียงแค่เงินเท่านั้นที่ถูกส่งกลับมาทุกเดือน
เขาเองก็ไม่เดินทางไปหาหรือทักท้วงอันใดทั้งที่เป็นห่วงจนแทบบ้า ...แต่ก็ทำแค่ส่งต่อจดหมายจากพวกน้องสาวไปให้อีกคนก็เท่านั้น
ทั้งดื้อ..
ทั้งดันทุรัง...
แต่อย่างน้อยก็ดีใจกับจดหมายที่อีกฝ่ายเขียนกลับมา
4.
ถึง ไอแวน เซปาร์
ข้าเข้าใจและรับรู้ทุกอย่างที่ท่านต้องการจะสื่อ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง และข้าเองก็แบ่งเงินไว้ใช้ส่วนหนึ่งแล้วเหมือนกัน เพราะอย่างนั้นถึงข้าจะทำงานหนัก แต่ข้าก็มีเงินกินข้าว เข้าซ่อง ซื้อของใช้ส่วนตัว ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก ผลการเรียนข้าดีมาก ข้าแนบมันคิดไปให้ดูด้วย ข้าฉลากว่าท่านรึเปล่าสมัยเรียน่ะ
จะว่าไปแล้ว เรื่องของโรงเรียนพระราชาอย่างนั้นเหรอ ข้ามีเรื่องอยากจะเล่าตั้งหลายอย่าง ทั้งเรื่องที่ข้าช่วยเด็กหลายคนในการฝึกดาบ ฝึกมารยาท สอนการบ้าน ทำให้ข้ารู้สึกเหมือนมีน้องชายเพิ่มขึ้นมากมาย แต่สำหรับผู้หญิงนั้นไม่รู้เป็นอะไร พวกนางดูไม่ค่อยชอบข้าซักเท่าไหร่ ทั้งที่ข้าก็พยายามทำดีกับพวกนางแล้วแท้ๆ สาวๆนอกโรงเรียนยังรักข้ามากกว่าพวกนางเสียอีก
แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ข้าได้พบเด็กบ้านอาร์กีริสที่นี่ด้วย จำได้ไหม วอร์ริคน่ะ คอนนี้เจ้านั้นอยู่ชั้นปีที่สูงกว่าข้าไปหนึ่งชั้น เห็นแลวก็รู้สึกเจ็บใจแปลกๆ แต่ก็คงไม่เท่าตอนที่ข้าแพ้ให้กับคนอายุเท่ากันเมื่อปีก่อน
พี่คิดว่าเพียงแค่เข้าเรียนก่อนเข้าหลัง ฝีมือมันจะห่างชั้นกันได้มากถึงขนาดนั้นเลยรึเปล่า
ลงชื่อ โทไบอัส เซปาร์
(แนบใบผลการเรียนติดไปให้)
5.
ถึง โทไบอัส เซปาร์
ข้าก็อยากจะชื่นชมกับการตั้งใจทำงานและตั้งใจเรียนของเจ้า แต่เรื่องไปเที่ยวย่านเริงรมณ์นั้น เจ้าไม่ใส่มาข้าก็ไม่ว่าอะไรเจ้าหรอกนะ และจะไม่ให้ข้าเป็นห่วงเจ้าได้ยังไง ถึงข้าจะมีน้องหลายคน แต่ทุกคนก็ไม่ใช่คนเดียวกัน และเจ้าก็คือเจ้า มีโทไบอัสเพียงคนเดียวที่เป็นโทไบอัส เพราะอย่างนั้นจงดูแลตัวเองให้ดี
เจ้าได้คะแนนบางวิชาสูงกว่าข้า แต่บางวิชาข้าก็เก่งกว่าเจ้า ฉลาดกว่าหรือไม่ข้าไม่รู้หรอก แต่เจ้ามีความพยายามแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นะ ทำได้ดีมากโทไบอัส
และเรื่องเกี่ยวกับสตรีเจ้าไม่สมควรจะถามข้า เจ้าควรจะถามตัวเองว่าเจ้าได้ทำอะไรกับพวกนางไว้รึเปล่า เจ้าชอบเล่นแผลงๆ สุภาพสตรีเป็นเพศที่เจ้าควรจะให้เกียรติเสมอนะ
วอร์ริค อาร์กีริส ทำไมข้าจะจำไม่ได้ ลูกชายคนเล็กของตระกูลอาร์กีริส สมัยก่อนพวกเราก็ไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆ ตอนนี้เขาอยู่ชั้นแที่มกกว่าเจ้าสินะ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็คือน้องของพวกเรา เจ้าควรจะดูแลเขาเสียบ้าง ไม่ใช่เหมือนตอนเด็กๆที่ชอบไปแกล้งเขาเล่นอย่างนั้น
และมันก็ใช่ที่คนที่เรียนก่อนจะมีความสามารถที่มากกว่าเจ้า แต่นั่นก็เพราะพวกเขาได้ศึกษามาก่อนก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ หากเจ้าอยากจะไปเหนื่อพวกเขา หรือตีเสมอ เจ้าก็ควรจะศึกษาในสิ่งที่สูงขึ้นไปมันก็เท่านั้น เจ้าก็เพียงทำอย่างที่เจ้าทำมาเสมอ แต่ทำให้มากขึ้นก็พอ
ลงชื่อ ไอแวน เซปาร์
ปล. อย่าหักโหม
6.
การเขียนจดหมายโต้ตอบ บางครั้งมันก็ดีกว่าการพบเจอหน้ากัน เขาคิดอย่างนั้นตอนที่ตัวเองเริ่มเขียนจดหมายโต้ตอบกับไอแวน
จะให้พูดมันก็คงจะน่าขัน แต่เขาได้มารู้ว่าตัวเองคิดถึงพี่ชายมากแค่ไหนก็ตอนที่เห็นลายมือของอีกฝ่ายบนซองจดหมายทั้งที่เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถคิดถึงอีกฝ่ายได้ขนาดนี้ ทั้งที่ตอนอีกคนอยู่ที่โรงเรียนพระราชาและไม่ได้มีการติดต่ออะไรกันเขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยแท้ๆ
แต่การที่มาอยู่ที่นี่แล้วทำตัวเหมือนพี่ชายแทบตลอดเวลา...พอได้กลับไปทำตัวเหมือนน้องชายอีกครั้ง มันก็จั๊กจี้ดีพิลึก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่
และ...ใช่ เรื่องบางเรื่องที่ทำให้อึดอัดใจมาตลอด การไม่ได้พบหน้ากันก็ย่อมพูดได้ง่ายกว่าเป็นไหนๆ
7.
ถึง ไอแวน เซปาร์
นี่ท่านพี่
ข้าเป็นน้องชายที่ท่านภูมิใจแล้วรึยัง
และถ้าข้าอยากจะไปต่อในเส้นทางของตัวข้า ไล่ตามความฝันเก่าๆแล้วโยนภาระทุกอย่างทิ้งไป ท่านจะอภัยให้ข้าได้รึเปล่า
ถ้าข้าอยากจะหยุดพักจากเรื่องของเซปาร์ แล้วเต็มที่กับตัวเอง เต็มที่กับคนรอบตัวของข้า จับมือของพวกเขาแล้วเดินต่อไปมากกว่านี้ ท่านจะอภัยให้ข้าได้ไหม
ถ้าข้าอยากที่จะมีชีวิตต่อไป โดยไม่แบกรับความผิดบาปที่พวกเราได้เคยก่อไว้อีกต่อไปอีกแล้ว แล้วก้าวต่อไปข้างหน้า เดินต่อไปเพื่อให้เข้มแข็งขึ้นไม่ใช่หยุดอยู่ตรงนี้ ได้ร้องไห้ ได้อ่อนแอ เพื่อที่จะยิ้มให้กว้างกว่าที่เป็น ถ้าข้าจะทำเพื่อตัวของข้าเอง ไม่ใช่เพื่อตระกูล ไม่ใช่เพื่อพวกพี่ ไม่ใช่เพื่อน้องๆ พวกท่านจะคิดยังไง
แล้วท่านคิดว่าข้าจะให้อภัยตัวเองได้ไหม ที่อยากจะมีความสุขให้มากขึ้นกว่าที่เป็น
จะให้อภัยตัวเองได้ไหม ที่อยากจะใช้ชีวิตนี้เพื่อตัวของตัวเอง
ลงชื่อ โทไบอัส เซปาร์
8.
ถึง โทไบอัส
เจ้าอดทนมามากพอแล้ว หากนั่นเป็นเส้นทางที่เจ้าเลือกก็จงไปเสีย จงใช้ชีวิตของตัวเองอย่างที่ตัวเองต้องการ
ข้าขอโทษ
ลงชื่อ ไอแวน เซปาร์
ปล. ปีนี้กลับบ้านได้ไหม ข้าอยากคุยกับเจ้า
9.
โทไบอัสหลุบตามองจดหมายที่ในมือ เขาปิดตาลงเมื่ออ่านข้อความเหล่านั้นจนจบ ข้อความสั้นๆในตอนท้ายนั้น อ่านยังไงก็รู้สึกเหมือนกำลังโดนพี่ชายอ้อนวอนขอร้องให้กลับยังไงชอบกล แต่จะว่าไปก็นานเหมือนกันสินะที่ไม่ได้กลับไปที่นั่น
ชายหนุ่มถอนหายใจ เขาหยิบปากกาที่ทัดหูไว้ใส่มือพร้อมเอื้อมหยิบแผ่นกระดาษที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบมาตวัดเขียนข้อความสั้นๆ ก่อนพับใส่ซองจดหมายและปิดผนึกอย่างรวดเร็ว
10.
ถึง ไอแวน
ถ้าพี่สัญญาจะซ้อมดาบกับข้า ข้าอาจจะลองคิดดูอีกที
ลงชื่อ โทไบอัส เซปาร์
----------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปปี
- ปิดเทอมที่ผ่านมาเดินทางไปซาเรสพร้อมเอ็ดการ์ หนาวมาก แต่ได้ประสบการณ์ และทักษะใหม่ๆติดตัวมาเพียบ + ค่าความอึด
- ได้ต่อสู้กับเอ็ดการ์ในหมากกระดาน : ชนะ
- ได้ดาบที่เคยเอาไปจำนำไว้กับวอร์ริคคืน
- เริ่มเขียนจดหมายโต้ตอบกับพี่ชายคนโตที่อยู่บารามอส
- เริ่มจะก้าวต่อไปข้างหน้า และพักวางเรื่องที่ทำให้เครียดตลอดเวลาลงบ้างแล้ว