Saturday, November 17, 2018
[TEZW] 01. 18/11/61
มาเรียนั้นทิ้งไว้เพียงเสียงกระซิบให้กับเอเวียร์ที่สิ่งออกไป เธอไม่ได้วิ่งหนีต่ออีกแล้ว ไม่ได้โต้ตอบอะไรกับโฮราเทีย
หรือใครอีกต่อไปเมื่อกรงเล็บนั้นกระซวกทะลุหน้าท้องเธอจากข้างหลังก่อนจะเหวี่ยงเธอกระเด็นให้ห่างจากประตู
"Well......ha..ha ha.. HAHAHAHAHAHAHAHAHAHAHAHAHAHAHAHAHAHAHA!!!!!!!!!!!"
หญิงสาวระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นขณะที่พลิกตัวมองเงาดำที่ขยับตัวตรงเข้ามาหา เธอขดตัว กอดท้องตัวเองที่ทะลุ
เป็นรูไว้แน่นทั้งน้ำตา เธอพยายามหายใจแต่ก็กระอั่กเลือดออกมาเป็นลิ่มๆ "แค่กๆ.....แฮ่ก.........อา....เจ็บ...
ชะมัด.......อึ่ก...."
...ฉันไม่ใช่คนดี ไม่ได้อยากจะอวยพรใครนักหรอก...แต่คนนั้นเป็นคนดีใช่ไหม? ฉันควรจะอวยพรให้เธอคนนั้นมีชีวิต
ต่อไปใช่รึเปล่า?...
....ต้องพูดอะไรมากกว่าคำลาไหมนะ...คิดไม่ออกเลยแฮะ.....
......แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้นหรอก เพราะการผจญภัยของฉันจบลงแล้ว.......
...จบแล้ว....กับความรักของฉัน...จบลงแล้วกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำให้ชัดเจน...
.....ถ้าเป็นวิญญาณแล้ว...ฉันจะยังกลับไปหาเธอได้รึเปล่า.......
......จะออกไปจากเกาะนี้ได้ไหม?.....
...ถ้าไม่ได้.......อา......ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลยแฮะ....
....ถ้าพี่อยู่พี่จะพูดยังไง...จะกลับมาหาฉันไหม จะกอดฉันไว้รึเปล่า...
....ถ้าพี่อยู่ตรงนี้.....
ตาสีเขียวนั้นเงยมองเงาดำที่เริ่มพร่าเลือน....เธอปิดตาลงด้วยรอยยิ้มที่เบี้ยวบิด
Adeus irmão....
...ฉันจะไม่ฝันร้ายแบบนี้ใช่ไหม จะตื่นขึ้นมา...แล้วได้พบกันอีกครั้งใช่รึเปล่า..?....
....งั้นครั้งหน้าถ้าได้พบ...จะพูดออกไปนะ...จะพูดออกไปอย่างแน่นอน....
.......แสงสว่างแรกและสุดท้ายของฉัน.....
Meu único amor......
Lucio......
Sunday, August 12, 2018
[MCCL_AU] Invitations
คำเชิญชวนนั้นไม่ได้หอมหวาน มันเหมือนกับคำขู่บังคับที่มีหลักประกันที่มิอาจหลีกหนีเสียมากกว่า...
ในตอนแรก โจวี่ อัลเลน คิดว่าทุกอย่างที่ชายคนนั้นกล่าวมาช่างเป็นเหมือนกับเหล็กเผาไฟ มันคอยเสียดสีกดดัน บีบเค้นให้เขาต้องยินยอมที่จะคายพิษในลำคอทั้งหมดออกก่อนที่เขี้ยวและเล็บจะถูกถอนไปจนหมดปาก ความลับทุกอย่างที่เขาปิดซ่อนไว้ได้ถูกเฟยเซียวเลาะออกมาจากเนื้อและกระดูกด้วยคำพูดไม่กี่คำที่คมกริบราวกับมีดผ่าตัด ยิ่งได้พูดคุยกันและถูกจ้องมองจากมาเฟียชาวจีนมากเท่าไหร่ โจวี่ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงแผ่นเหล็กเย็นยะเยือกที่กดขูดเนื้อหนังแดงๆให้หายไปจนเหลือแค่ความฟอนเฟะสีขาวใต้ผิวหนังของสุนัขถูกทิ้งตัวหนึ่ง
สำหรับโจวี่ที่โดนยื่นข้อเสนอให้มาทำงานพิเศษแล้ว.. เพียงแค่ได้เฉียดผ่าน นั่งคุย หรือหยุดเพื่อฟังคำพูดของนายจ้างอย่างเฟยเซียวแล้วมันช่างเป็นอะไรที่ไม่น่าอภิรมณ์เอาเสียเท่าไหร่ ชายคนนั้นสามารถมองทะลุรอยยิ้มของเขา มองทะลุเสียงหัวเราะของเขา มองทะลุทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาไม่ต้องการจะให้ใครได้รับรู้
....และกล่าวสมเพชหยามเหยียดในตัวตนที่เขาได้ปรุงแต่งเสกสร้างขึ้นมาให้เข้ากับโลกที่งดงามของคนอื่น
โจวี่รู้ดีว่าอีริค - เพื่อนของเขาคงจะไม่พอใจมากหากรู้ว่าเขาเลือกทำงานอะไร แต่เพราะอีกฝ่ายค่อนข้างจ่ายค่าตอบแทนที่ดี -- และสอนให้เขาได้รู้ว่าตัวของเขามีราคามากกว่าที่ตัวเองคิดเสียมากมาย เขาจึงยอมจับมือ เซ็นสัญญากับปีศาจคนนั้นโดยแลกกับสิ่งที่ตัวเองมีพอจะจ่าย
จะเรียกว่าโดนล่อลวงก็น่าจะพอเรียกได้ เพราะเมื่อผ่านช่วงที่ขมจนแทบสำรอกอะไรๆก็ดูเหมือนจะดีขึ้นมาทีละน้อย -- หรือไม่ก็อาจจะเพราะเขาชินชากับมันไปแล้วก็น่าจะไม่ผิดนัก
เขารู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นมีหนี้ที่ตนไม่ได้ก่อของตระกูลเบ็นท์ลี่อยู่ท่วมหัว เพราะอย่างนั้นการทำงานกับเฟยเซียวก็เป็นงานที่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะสามารถหาเงินมากพอมาใช้หนี้ตระกูลนั้นได้ก่อนที่ตัวเองจะตายแน่ๆ แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าหากหลุดพ้นจากตระกูลนี้ไปแล้วตนจะไปตกหลุมที่ถูกขุดรอไว้หรือไม่
...แต่มันก็ไม่น่าจะแย่ไปมากกว่านี้ และอนาคตยังเป็นเรื่องของอนาคต เพราะอย่างนั้นเขาก็คิดว่าตนเองน่าจะพอทนไหว....
...น่าจะพอทนไหว...
Monday, July 23, 2018
Quentin .01 : Before the time start
"Why you left me?"
"Why you abandon me?"
"Why you choose that doll instant of me?"
"Am I not good enough?"
"Are you not love me anymore?"
"Are you don't want me to be you twin anymore?"
"Did I do something wrong?"
"...I don't know what I have done for you but I'm sorry"
"Sorry, Quinn. Even I don't know what I have done but I won't do it again. So please forgive me."
"I cannot stay here alone by myself.."
"This place has no one. This place don't even have a plant to eat."
"Only rocks and sand, I'm glad that it still have an under-groundwater... Oh.. I found place that have a grass too!"
"....But I don't see anyone there....maybe this place might have only me?"
"Quinn... where are you? You pushed me into the door and you still not come. Are you forgot about me?"
"I am too weak..."
"I am scare...."
"I....cannot live alone..."
"Quinn. I start to ask my reflection but it didn't answer anything. I'm lonely."
"Am I dying?"
"No one here for me...I don't have any power because I can't find anyone to make them believe in me."
"Or I should just off the game? It might be better."
"Because when I not have you, I'm so useless..."
"I see..."
"I'm too useless so you don't want me to play with you?"
"Sorry... sorry, Quinn..."
"I.. I will try to be stronger...."
"I....I will."
"Maybe you just annoy by me? Because I'm only your shadow..."
"....so you create a new one that can truly stay with you."
"That's why you left me...."
"I can see it now because I cannot do anything, I cannot even gain any power and I still hide in the cave..."
"..............I'm scare..........."
"Help me..."
"Please..."
"Anyone............"
"........."
"..."
Monday, July 9, 2018
เจี๊ยบ : 01
วันนั้นที่นายขอหยุดความสัมพันธ์ของเรานั้น ฉันก็ทำเพียงแค่ยอมรับอย่างง่ายๆ ไม่ร้องไห้ ไม่ฟูมฟาย ไม่ได้อ้อนวอนขอให้นายหันหลังกลับมา
พวกเราทั้งสองต่างจบกันด้วยดี ไม่มีการปะทะ ไม่มีปากเสียง
ฉันยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม ไปเรียน กลับบ้าน ทำงานพิเศษ ไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมเลยซักอย่าง เหมือนกับว่าเรื่องพวกนั้นทำอะไรกับฉันไม่ได้ เหมือนกับว่ามันก็แค่สิ่งที่อีกไม่นานก็จะดีขึ้น และบาดแผลเหล่านั้นก็จะหายไป
แต่หลังจากผ่านไปได้หนึ่งอาทิตย์ ฉันก็พังทลาย
ร้องไห้เหมือนโลกทั้งใบมันถล่มลงมา ฉันโทรหาพี่สาว...พี่สาวแสนดีที่รีบขับรถมาหาฉัน อยู่กับฉันที่แตกสลาย คอยดูแล คอยปลอบใจ คอยอยู่เคียงข้าง
มันทำให้ฉันได้รู้ว่าโลกใบนี้ของฉันคงมีแค่พี่สาวคนเดียวที่จะอยู่ตรงนี้ จะไม่หันหลังหนีฉันไปไหน
พี่คอยช่วยฉันให้กลับมายืนอีกครั้ง คอยประคองให้ฉันเดินต่อไปข้างหน้า
แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังเลือกที่จะเดินตกหลุมเดิมซ้ำๆ เหมือนกับแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟกองเดิมทังที่เกือบเคยถูกมันเผ่าทั้งเป็น... ตัวฉันที่โง่งมไม่สนใจในความผิดบาป ไม่สนใจในคนที่อยู่เคียงข้าง ไม่สนใจว่าในตอนนี้ตัวเองหรือตัวของเขาจะมีใครคนอื่นที่ยืนเคียงกันอยู่แล้วเสียด้วยซ้ำ
ฉันยังคงเลือกที่จะปล่อยให้ตัวเองจมลงไปในบ่อน้ำที่ลึกยิ่งกว่าเก่าเพียงเพราะแค่ความสุขชั่วคราว
เหมือนกับความหวานที่ติดบนปายลิ้น ซักวันมันก็จะหายไป แต่เพราะอย่างนั้นถึงยิ่งโหหยหาปานจะขาดใจ
จนรู้สึกว่าต่อให้ครั้งนี้ต้องพังทลายอีกครั้ง...ฉันก็ยินยอม
Saturday, June 16, 2018
Seth : 01
สำหรับพี่...ฉันเป็นน้องที่ขยันก่อภาระ
สำหรับพ่อ...ฉันเป็นเพียงเด็กที่เกิดมาด้วยความจำเป็น
สำหรับท่านเมอซี่นั้น...ฉันคงจะเป็นเพียงที่ระบายอารมณ์เมื่อตัวพระองค์ไม่พอใจ
แต่สำหรับฉัน...ท่านเมอซี่คือผู้ที่ทำให้ฉันได้ลืมตาขึ้นมาบนโลกนี้ คือผู้ที่ทำให้ชีวิตอันไร้ค่านี้มีความหมาย
เพราะหากไม่ใช่เพื่อพระองค์แล้ว ตัวของฉันก็คงไม่อาจแม้แต่จะมีตัวตน...และแม้แต่พี่เองก็คงไม่ได้ต้องการ
และแม้ว่าท่านเมอซี่จะไม่ได้รับรู้เรื่องในข้อนี้ แต่อย่างน้อยฉันก็ต้องการที่จะเข้มแข็ง -- ไม่ต้องเท่าพี่ แต่อย่างน้อยก็ขอเพียงแค่ซักครึ่งของพี่ ให้ฉันได้ปกป้องและดูแล ได้คอยรับใช้คนผู้นั้นต่อไป
และต่อให้ท่านเมอซี่จะระบายอารมณ์กับตัวของฉัน ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธ ไม่มีสิทธิ์ที่จะปัดป้อง...ด้วยเพราะร่างกายนี้เป็นของท่านมาตั้งแต่ก่อนที่ตัวของฉันจะได้รับรู้เรื่องราวต่างๆเสียอีก เช่นนั้นแล้วฉันจึงไม่มีความหมายใดที่จะให้ปฏิเสธการกระทำนั้น
แม้จะไม่พอใจ แม้จะเจ็บปวด แม้จะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ตัวฉันก็พร้อมจะน้อมรับสิ่งที่ท่านมอบให้ทั้งหมด
รัก...ไม่รัก
เรื่องนั้นไม่เกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย
ในเมื่อสิ่งที่สำคัญที่สุดของตัวฉัน คือการที่ท่านยังคงยินยอมให้ฉันผู้แสนจะไร้ค่านี้ก้าวตามรับใช้แต่เพียงเท่านั้นเอง...
Velvet : 02
อันนี้ต่อจากอันที่แล้ว แต่คนละไทม์ไลน์
---------
การที่กระหม่อมเกิดมาก็เพื่อพระองค์ท่าน
การที่กระหม่อมเติบโตมาก็เพื่อพระองค์ท่าน
การที่กระหม่อมร่ำเรียนเขียนอ่าน ทั้งศาสตราและอาวุธก็เพื่อพระองค์ท่าน...
ชีวิตทั้งหมดของข้าพระองค์นั้นมีเพียงเพื่อฝ่าพระบาทของกระหม่อมแต่เพียงผู้เดียว
ฝ่าบาทจะทรงเป็นผู้เดียวที่สามารถสั่งการกระหม่อมได้
ฝ่าบาทจะทรงเป็นเพียงผู้เดียวที่สามรถหยุดยั้งกระหม่อมได้
ฝ่าบาทจะทรงเป็นเพียงผู้เดียวที่กระหม่อมจะมอบกายและวิญญาณ
จะอยู่เคียงข้างกายไม่ไปไหน...
....
แต่ต่อจากนี้ไปนั้น...กระหม่อมคงมิอาจอยู่เคียงคู่พระองค์ได้อีกต่อไป
มิอาจได้เคียงข้าง...มิอาจได้รับใช้
มิอาจ....จะถวายกายและวิญญาณนี้ให้แก่ฝ่าพระบาทของกระหม่อมได้อีกต่อไป...
จากนี้..และตลอดไป กระหม่อมขอให้พระองค์ทรงดูแลรักษาพระวรกายให้ดี
เพราะต่อจากนี้พระองค์นั้นจะไม่มีกระหม่อมคอยอยู่เคียงข้างอีกต่อไปแล้ว
จะไม่มีกระหม่อมคอยปกป้องและดูแลอีกต่อไปแล้ว....
เพราะอย่างนั้นแล้วพระองค์จงโปรดฟังคำร้องขอครั้งสุดท้ายของกระหม่อมด้วย
โปรดจงดูแลตนเองให้ดี...ขอเพียงเท่านี้กระหม่อมก็พอพระทัย
Velvet : 01
เวลเว็ท เดอ เฟรมา
เจ้าคือมังกรขององค์ราชันย์ คือดาบ คือโล่ห์ คือมังกรเคียงข้างราชบัลลังก์แห่งซิลวา
เจ้าเกิดมาเพื่อรับใช้องค์ราชา เจ้าเกิดมาเพื่อจงรักและภักดี...เพื่อมอบกาย ถวายวิญญาณ เพื่อซื่อสัตย์ต่อนายเหนือหัวของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
เวลเว็ท บุตรแห่งข้าเอ๋ย...
ทางข้างหน้าของเจ้าแม้เต็มไปด้วยขวากหนามแต่เจ้าก็จงห้ามถอยหนี
เจ้าจงทำลายสิ่งกีดขวางเหล่านั้น และจงปูเส้นทางที่สง่างามที่สุดให้แก่นายเหนือหัวของเจ้า ด้วยมือ ด้วยเท้า ด้วยพลังทั้งหมดที่เจ้ามี
เพราะเจ้าคือมังกรผู้รับใช้องค์ราชา เพราะเจ้าคือผู้ถือตราแห่งราชบัลบังก์
คือศาสตราแห่งเปลวไฟผู้ถวายคำสัตย์ฏิญาณ
คือผู้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจนิจนิรันดร์
เพราะเช่นนั้นแล้วเจ้าจึงไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดพัก เจ้าจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ถอนตัว ไม่ได้รับอนุญาตให้อ่อนแอ...
เวลเว็ท เดอ เฟรมา..
เพื่อฝ่าบาทแล้วเจ้าต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าใคร เพื่อพระองค์แล้วเจ้าต้องเฉลียวฉลาดยิ่งกว่าผู้ใด
จงห้ามมีตำหนิในทุกสิ่งที่เจ้าทำ
จงห้ามมีรอยด่างพร้อยในทุกย่างที่ก้าวเดิน
จงเชิดหน้าและมองตรง
จงสง่างามและสูงค่า
จงเป็นดั่งอัญมณีแห่งดวงอัคคีผู้มิอาจมีผู้ใดได้ไขว่คว้าครอบครอง
...
เวลเว็ทเอ๋ย...
เวลเว็ทบุตรแห่งข้า
นามเจ้าแปลว่ากำมะหยี่แสนเลอค่า
เป็นนามอาภรแห่งกษัตริย์ตรา.. ผู้ปกปักษ์รักษา เคียงข้างกายาแห่งพระองค์
เช่นนั้นแล้วเจ้าจงเป็นที่เชิดหน้าชูตา ในฐานะของมังกรแห่งราชันย์....
Monday, June 11, 2018
Ezra : 01
ตัวของผมนั้นไม่ได้เกิดมาจากความรัก
เพราะอย่างนั้นหลังจากที่แม่ได้ให้กำเนิดผมออกมา นางก็เดินทางจากไป...มีเพียงแค่ตัวของผมที่ถูกทิ้งเอาไว้ และได้รับการเลี้ยงดูด้วยคนรับใช้ชั้นผู้น้อยของพ่อ ในขณะที่ตัวของพ่อนั้นต้องการเห็นแค่พัฒนาการของเชื้อสายตัวเองกับสตรีแห่งฟากฟ้าแต่เพียงเท่านั้น
เพื่อให้เป็นลูกชายที่น่าภูมิใจ เพื่อให้ได้รับมาซึ่งคำชมเพียงแค่สั้นๆ และเพื่อให้สายตาคู่นั้นได้มองตรงมา เพราะอย่างนั้นแล้วผมถึงได้พยายาม...พยายามมาตลอด เพื่อหวังว่าซักวันชายคนนั้นถึงจะหันกลับมาหาบ้างซักครั้ง และเพื่อซักวันหนึ่งนั้น...มารดาที่ไม่เคยพบเจอหน้าจะหวนกลับมาหาผมบ้าง มามอบอ้อมกอดและเอ่ยคำปลอบโยนบ้าง..เพียงแค่ซักครั้ง
แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน
สิ่งที่พ่อต้องการคือสิ่งที่สามารถนำไปโอ้อวดต่อผู้คน เป็นสิ่งที่จะทำให้พ่อไม่รู้สึกน้อยหน้าใคร และมันกลายเป็นว่าตัวของผมเองนั้นไม่สามารถจะออกนอกลู่ทางนี้ได้ ไม่อย่างนั้นสิ่งที่รออยู่คงไม่พ้นการถูกกล่าวหาว่าเป็นเพียงแค่สิ่งของที่ไร้ประโยชน์เพียงเท่านั้น...
ตั้งแต่จำความได้รอบตัวของผมไม่เคยมีใคร ไม่เคยมีในสิ่งที่ใครต่อใครต่างก็มี บ้านของผมนั้นเงียบเหงา ทุกมื้อที่โต๊ะอาหารตัวยาวนั้นว่างเปล่า และต่อให้สะดุ้งตื่นมากลางดึกจากฝันร้าย ในบ้านก็ไม่มีใครให้วิ่งไปหาเลยซักคน
ทุกคืนที่ผมลืมตา บนเตียงใหญ่ตัวเดิมนั้นมีแค่ตัวของผมกับความมืดที่มองไม่เห็นจุดสิ่งสุด มีเพียงแค่ตัวผมเพียงลำพัง....
จนวันหนึ่ง..ในสวนต้องห้ามนั้น มือสองคู่ของคนสองคนก็ฉุดผมออกมาจากความเงียบเหงา พวกเขาพาตัวของผมออกจากกรงขังของพ่อให้ออกมาเห็นโลกภายนอกที่แสนกว้างใหญ่และแสนแสบตา... พวกเขาสอนผมให้ได้รู้ว่าคำว่าเพื่อนนั้นเป็นเช่นไร...
แบล็คสเปสนั้นเป็นเพื่อนที่ดีแม้จะชอบทำเรื่องที่น่าปวดหัว ออกัสตัสนั้นรักทุกคนที่สุดและพร้อมที่จะให้อภัยกับทุกคน เบลาทริซนั้นก๋ากั่น..นางแสบยิ่งกว่าผู้ชายคนไหนที่เขาเคยพบ แซตเทอเดย์ถึงจะประหลาดแต่ก็ฉลาดและอ่านสถานการณ์ออก แดเนียลเป็นเด็กจอมโลเลที่มีทั้งพรสวรรค์และอนาคตที่ยาวไกล......และเอด้า....ตัวทดลองที่อ่อนโยน...อ่อนโยนที่สุดมากกว่าใครๆ...
คนพวกนั้นคือ เพื่อนกลุ่มแรก...และกลุ่มสุดท้ายที่ผมมี เป็นเพียงมิตรสหายเพียงหยิบมือของผมที่ไม่มีใครคนอื่นสามารถเข้ามาแทนที่ตรงนั้นได้
หากว่าเวลานั้นเป็นนิรันดร์...มันก็คงดีมากทีเดียว....
แต่ไฟจากสงครามที่พวกเราไม่ได้ก่อนั้นรุนแรงกว่าที่ผมคิด เปลวไฟขนาดใหญ่นั้นเผาผลาญและฉีกกระชากกลุ่มของพวกเราให้แตกกระจาย ผมที่ไปไหนไม่ได้ทำเพียงแค่ชี้นิ้วบอกเส้นทาง...บอกทางออกจาก "กรงนก" ขนาดใหญ่นี้ ออกจาก "สวนอีเดน" แห่งนี้ไปสู่นอกกำแพงที่สูงตระหง่านที่ตัดโลกของพวกเราให้ขาดออกจากกัน
หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้พบกับเอด้า...
เอด้าไม่ใช่คนเดิม เธอเปลี่ยนแปลงไปจากการทดลอง กลายเป็นเพียงตุ๊กตาที่มีชีวิต เป็นเพียงอาวุธที่ไม่มีความรู้สึก...มันยากที่จะดึงเธอมาอยู่ข้างตัว ยากที่จะปกป้องเธอไว้โดยไม่ให้ใครสงสัย...
มันยาก...ในเมื่อทุกย่างก้าวของผมเองก็ถูกจับจ้องด้วยสายตาของคนมากมายที่พร้อมจะกระชากผมลงมาทุกเมื่อ
...แต่แล้ววันหนึ่ง...
เธอเองก็จากไป....
ออกไปจากสถานที่แห่งนี้และโผบินกลับขึ้นไปสู่ฟากฟ้า..เหลือเพียงแค่ผมในกรงนกกรงเดิม.....
.....กับดวงตามากมาย....
Yonagi : 01
ในโลกที่มืดมิดใบนี้ สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดและเปราะบางที่สุดในเวลาเดียวกันนั้นคือความรัก
โยนากิไม่มีเหตุผลจะไม่เชื่อในเรื่องความรัก เพราะตัวตนของเขาครั้งหนึ่งมันก็เกิดขึ้นมาจากความรัก เพียงแต่คำว่ารักที่เขารู้จัก กับคำว่ารักที่เขาได้เห็นผ่านช่วงชีวิตทั้งหมดมานั้นมันเรียกใช้คำนิยามอย่างปกติไม่ได้เลย
ออกัสตัส - พ่อของชาลานั้นถึงจะดูรักและเอาใจใส่ในตัวลูกและภรรยา แต่สายตาที่เขามองดูแมวจรจัดจากเสรีนั้นช่างปวดร้าว มันเป็นความปรารถนาอยากจะโอบกอดไว้ อยากที่จะสัมผัส
ในขณะที่สายตาที่อีกฝ่ายมองตอบกลับไปนั้นช่างแตกร้าวและแหลกสลาย ชายคนนั้นมองดูคนที่ตนรักที่สุดในชีวิตหันหลังให้ตนเองที่ตายจากไปเพื่อเยียวยาบาดแผลในจิตใจที่พังยับเยิน การกลับคืนมาจากความตายอีกครั้งนั้นคือความผิดพลาดที่ใหญ่หลวง... เป็นความผิดที่ไม่สามารถที่จะแก้ไข
ด้วยความรับผิดชอบของความผิดหวัง พวกเขาต่างทำลายความรักของกันและกันจนยับเยิน และทิ้งรอยแผลเป็นไว้เป็นทางยาวอย่างไม่อาจจะสมาน
ในอีกทางหนึ่งนั้น.. โยชิมิซัง -- พ่อของเขานั้น ได้แต่งงานกับแม่ ดูแลและทำทุกอย่าง พวกเขาทั้งสองต่างหลบหนีมาจากนรกในวันที่ทุกคนต่างปรารถนาจะสังหารพวกเขาสิ้นเสีย
พ่อต้องแบกรับการถูกตราหน้าว่าทรยศ หันหลังและทอดทิ้งพวกพ้องเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว การก่อร่างสร้างตัวกันในสถานที่ใหม่นั้นหนักหนาแสนสาหัส พวกเขานั้นทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งการยอมรับ...
แต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง พ่อกลับเลือกจะปลิดชีพตนเองในปีที่เขาใกล้จะเกิด พ่อเขียนทุกสิ่งทุกอย่างลงในจดหมาย สารภาพความแตกร้าวและความผิดบาปในจิตใจที่ต้องแบกรับไว้ ...ชายผู้นั้นยอมทอดทิ้งชีวิตใหม่ที่ใกล้จะลืมตาดูโลกเพื่อจมปลักอยู่ในอดีต
พ่อเสียชีวิตในการปฏิบัติภารกิจ...และกลับมาจากความตายตอนเขาอายุได้เจ็ดปี ชายในภาพถ่ายผู้นั้นเหมือนถูกหยุดเวลาไว้กับที่ ส่วนแม่ที่ร่ำร้องจนลงไปทรุดนั่งอยู่กับพื้นก็ให้อภัย...และพวกเขาทั้งสองก็พยายามประคับประคองความสัมพันธ์เก่าๆนั้นให้ประสานกลับมา
ในขณะที่ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นนั้น ความผิดพลาดในวันเก่าของพ่อก็ไล่ตามจนทัน ฝันร้ายของผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเขานับถือสุดหัวใจได้มาหยุดอยู่ที่หน้าประตู และคร่าชีวิตมารดากับน้องน้อยของเขาต่อหน้าชายคนนั้นที่ไร้พลังจะต่อต้าน
เขาโกรธและแค้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาอ่อนแอ...และหวาดกลัว
แต่ที่เจ็บที่สุดก็คงตอนที่ได้เห็นสายตาของพ่อที่มองไล่ตามหลังอสุรกายตนนั้นเสียมากกว่า สายตาของผู้ที่ใกล้จะขาดใจ...และปรารถนาให้คนผู้นั้นหันกลับมา....
นั่นคืออีกหนึ่งความรักที่เขาได้เห็น เป็นความรักที่เขาไม่ปรารถนาที่จะเข้าใจ หากรักแล้วทิ้งทำไม รักแล้วทำไมไม่เฝ้ารอ นั่นเพราะตนไม่สามารถที่ตะก้าวไปต่อได้อย่างนั้นเหรอ...เขาไม่ทราบเลย
แต่โยนากิก็เชื่อว่าความรักมีอยู่จริง มีกลุ่มคนมากมายที่ต่างสมหวังในรัก ผิดหวังในรัก ไล่ตามหาและไขว่คว้าความรัก และทอดทิ้งเหยียบย่ำความรักของผู้คน
เขาที่เริ่มเติบโตนั้นได้มองเห็นเรื่องราวต่างๆที่แตกต่างกัน นิยามความรักที่ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงสีสันของความรักเองก็ด้วย...มันงดงาม แต่ก็น่าขยะแขยง
หากต้องการจะรักนั้นก็ควรเตรียมตัวที่จะเจ็บ หากปรารถนาความภักดีก็ควรเตรียมตัวที่จะเสียใจ หากได้พบ..ก็ควรได้รู้ว่าซักวันต้องลาจาก และตัวเลือกหลังจากนั้นก็คือขวากหนามทั้งสิ้น
เขาจึงไม่ปรารถนาที่จะมีรัก แม้จะมีผู้คนมากมายหยิบยื่นมันให้กันเขาก็ตาม
จนหมอนั่น...เดินเข้ามา..
ฟาบิโอ้เป็นหนึ่งในลูกน้องที่เขาเลือกออกมาด้วยตัวเอง
หมอนั่นที่มีเชื้อสายจากโรดอส -- ดินแดนแห่งท้องทะเล เป็นชายตัวสูง ขับบิ๊กไบค์ เป็นสตอกเกอร์ และเชื่อฟังเขายิ่งกว่าใคร
ฟาบิโอ้เคยเอ่ยกับเขาในวันหนึ่งเมื่อครั้งอดีต อีกฝ่ายเอ่ยขอถึงความปรารถนาหนึ่งที่เขาไม่เคยคิดถึง ในขณะที่มองดวงตาที่คู่นั้นเขารู้สึกแปลกประหลาดใจ แต่ด้วยการยืนยันที่ไร้ข้อสนับสนุนทำให้เขาไม่คิดที่จะเชื่อถือ เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ยื่นข้อเสนอและบททดสอบให้อีกฝ่าย
โดยการส่งฟาบิโอ้ไปทำภารกิจฆ่าตัวตาย
ถ้ากลับมาได้โยนากิก็คิดว่าคู่ควรที่จะลองดูต่อไปอีกซักหน่อย แต่หากไม่ก็แค่เสียลูกน้องฝีมือดีไปซักคน ถึงจะฟังดูน่าเสียดาย แต่การหาคนใหม่มาทดแทนในช่วงเวลานี้ก็ไม่น่าจะยากซักเท่าไหร่นัก
แต่ก็ช่างน่าชื่นชม อีกฝ่ายยังคงกลับมาหา และกลับมา ทุกครั้งที่เขาส่งออกไป ไม่ว่าจะเป็นภารกิจไหน แต่อีกฝ่ายก็จะกลับมาหาเขาทุกครั้ง ไม่เคยบ่น ไม่เคยปฏิเสธ ไม่เคยหลบหนีหรือบอกยกเลิกคำขอ เป็นเหมือนสุนัขที่แสนจะเชื่อฟัง
...มันทำให้เขารู้สึกดีเหลือเกิน
และบททดสอบสุดท้ายก็ตามมา
"จงอย่าให้มีใครคนอื่นสำคัญกว่าฉัน"
ด้วยคำคำนั้น อีกฝ่ายก็น้อมรับและทำตามเป็นอย่างดี ทุกคนสำคัญ ทุกสิ่งสำคัญ ครอบครัวที่แสนจะรักยิ่งนั้นถูกชักนำให้เดินทางไปสู่จุดจบโดยที่มือของพวกเขาทั้งคู่ไม่เปื้อนเลือดซักหยด เป็นการลาจากที่แสนเรียบง่าย ไม่เหวือหวา แม้เสียงจะดังเกินไปซักเล็กน้อยแต่ก็มากพอจะทำให้โยนากิขยับยิ้มที่งดงามที่สุดในสายตาของฟาบิโอ้
และตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่พวกเขาสองคนจมดิ่งลงไปในความรู้สึกที่ยากจะบอก จมลึกลงไปในความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
พวกเขาทั้งสองต่างก็จมหายลงไป และถูกรัดด้วยโซ่ตรวนที่รัดแน่นจนหายใจไม่ออก มันบีบรัดร่างของคนทั้งสองเข้าด้วยกันจนไม่อาจจะแยกจาก
โยนากิไม่เคยคิดว่าตนจะมาถึงในจุดนี้ ในจุดที่เขายินยอมจะเปิดหัวใจให้กับใครซักคน
ในจุดที่ถูกขโมยไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง...
ในจุดที่.......ทุกอย่างนั้นบ่าคลั่งและว่างเปล่า
ในจุดที่มีเพียงแค่ "เรา"
นอเทิลไลท์ 18/6/59
---------------------------------------------------------------------
ฉันมองปืนสีทองบนตัก สัมผัสของมันเย็นเฉียบยิ่งกว่าน้ำแข็ง....
นี่คือสิ่งที่ 'เขา' ได้มอบให้แก่ฉัน เพื่อให้ฉันได้ทำลายความอ่อนแอพวกนั้น..
ฉัน...แค่จับมัน มองมัน... ไม่ใช่ว่าไม่รู้วิธีใช้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้วิธีจับ..
ฉันรู้ว่ามันใช้ยังไง ฉันรู้วิธีสับไกปืน วิธีทำความสะอาด วิธีใส่กระสุน...
ฉันรู้วิธีเล็ง และฉันก็รู้วิธีที่จะยิง..
แม้ว่าตัวฉันจะไม่เคยได้รับอนุญาตให้จับถือ เพราะพี่ชายบอกว่าจะปกป้องเอง.. เพราะพี่ชายบอกว่าให้คนที่แปดเปื้อนคือเขาเอง...คือเขาเพียงคนเดียว
แต่หลังจากที่ฉันเสียพี่ไป 'คนคนนั้น' ก็ยินยอมที่จะสอนให้ฉันใช้มัน ถึงฉันจะไม่ได้เก่งกาจเหมือนใคร ถึงฉันจะทำได้เพียงแค่ป้องกันตัว แต่ 'คนคนนั้น' ก็บอกกับฉันว่าไม่เป็นอะไร เขาสอนฉัน แต่ก็เพียงเท่านั้น
ฉันรู้ว่า 'คนคนนั้น' ยอมที่จะมอบทุกอย่างให้กับฉัน ทุกอย่างที่พี่ชายไม่เคยปรารถนา ก็เพราะว่าเขารู้สึกผิดที่ช่วยพี่ไว้ไม่ได้ เพราะเขารู้สึกผิดที่พาพี่กลับมาไม่ได้ และเพราะเขารักพี่มาก..มากที่สุด มากยิ่งกว่าใคร เขาถึงได้ทำตามคำขอร้องของฉัน เพราะว่าฉันเป็นน้องของพี่
เพราะ 'คนคนนั้น' ไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของฉันได้อีกต่อไป โลกที่ไม่มีพี่อยู่ด้วยอีกแล้ว 'คนคนนั้น' ไม่มีทางที่จะไม่ทำตามในสิ่งที่ฉันขอ
ฉันรู้สึกผิดเวลาเห็นสีหน้าของเขา และฉันก็รู้สึกผิดที่ไม่สามารถเป็นในสิ่งที่พี่ต้องการ แต่ฉันไม่สามารถรอให้ทุกอย่างจบลงอย่างนี้ได้
ฉันไม่สามารถยอมรับตัวตนของตัวฉันที่พิการอยู่อย่างนี้ได้
ฉัน...อยากจะทำอะไรซักอย่างเพื่อพี่ชาย....เพื่อตัวของฉันเอง
.....
แล้วพี่ชายก็กลับมา..
พี่ชายกลับมาหาฉัน กลับมาจากความตายนั่น แล้วพี่ก็บอกกับฉันว่าไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้ว จะไม่มีใครมาทำอันตรายฉันตราบเท่าที่พี่ยังอยู่ตรงนี้ และฉันก็วางปืนลง...
เพราะพี่ไม่ต้องการให้มือของฉันนั้นหยาบกร้านหรือแข็งกระด้าน เพราะพี่ไม่อยากให้ฉันต้องแปดเปื้อนและร่วงหล่น...เพราะพี่ชายอยากให้ฉันเป็นเพียงแค่คนเดียวที่ยังคงสะอาด ให้เป็นแสงสว่างในโลกที่มืดมิดใบนี้ของพี่
แต่...
ฉัน...ไม่อยากที่จะเป็นแค่คนที่คอยถ่วงแข้งถ่วงขา ไม่อยากจะเป็นแค่คนที่ทำให้พี่อ่อนแอขึ้นไปมากกว่านี้
ฉันรักพี่.. ฉันรักพี่มาก.. พี่ดูแลและให้ฉันทุกอย่าง พี่อ่อนโยนกับฉันเสมอ และยอมทำตามแทบทุกสิ่งที่ฉันขอ แต่......
ฉันก้มมองขาตัวเอง...
แค่จะขยับก็ยังทำไม่ได้.. และมันก็เจ็บ.. เจ็บและพันไว้ด้วยผ้าพันแผลจากความโง่ของฉัน ความไว้ใจมากเกินไปของฉัน.....และนั่นทำให้พี่ของฉันเจ็บปวด
แต่ฉันได้เลือกแล้ว ฉันได้เลือกไปแล้ว.....
พี่คะ...ขอโทษนะคะ..
....
ในความฝันนั้น ฉันยังจำได้เสมอ พี่ชายบอกว่าฉันนั้นเหมือนเจ้าหญิง เจ้าหญิงที่เป็นแก้วตาดวงใจของพี่... เป็นโลกทั้งใบของพี่ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่จะไม่สามารถหาได้ในโลกที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะอย่างนั้นพี่ถึงได้รักและหวงฉันมาก..มากที่สุด
แต่ฉันไม่อยากจะเป็นเจ้าหญิงของพี่... ฉันไม่อยากจะเป็นแค่เจ้าหญิงที่ทำอะไรไม่ได้แบบนี้
...เอาตามตรง ตัวฉันไม่ใช่เจ้าหญิง....ไม่ใช่เลย....ฉันไม่เคยคิดเลยซักนิด
..ฉันเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนนึง ที่มีแต่ได้รับ โดยไม่เคยได้ให้สิ่งใดตอบกลับไปต่างหาก... และทุกคนเองก็มองฉันผ่านมุมมองของพวกเขาทั้งนั้น
'คนคนนั้น' มองเพียงแค่เงาของพี่ผ่านตัวของฉัน เพราะเขาเสียพี่ไปและฉันยังคงอยู่ เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ต้องการจะชดเชยทุกอย่างกับตัวของฉัน
'เขา' อีกคน บอกว่าฉันเห็นแก่ตัวและเกะกะ ฉันเป็นเพียงตัวถ่วงที่ทำให้พี่มีแต่ห่วง แันที่ทำอะไรไม่ได้เลยนั้นเหมือนกับหนอนแมลง...ไร้ค่ายิ่งกว่าอะไร
'เธอ' บอกว่าฉันไม่สมควรที่จะอยู่ ฉันไม่ควรค่าที่จะมีชีวิตบนโลกใบนี้ ฉันไม่สมควรจะอยูเคียงข้างพี่ของฉัน ไม่สมควรได้รับความรักจากใครทั้งนั้น
'ฉัน' รู้ตัวดีว่าฉันไร้ค่ามากแค่ไหน ฉันทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ได้เลยซักอย่าง เดินด้วยตัวเอง ลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง ก้าวเท้าด้วยตัวเอง....ฉันทำอะไรไม่ได้เลย
ส่วนพี่....
'พี่' บอกฉันว่า.... "ไม่เป็นไร"
...
ฉันไม่อยากจะเป็นเจ้าหญิง....ไม่เคยอยากที่จะเป็น และมันไม่มีทางที่จะเป็น
ฉันไม่เคยอยากที่จะฆ่าใคร เพราะฉันรู้ว่าพวกเขาทุกคนต่างมีคนที่รักและใส่ใจ
ทุกคนมีครอบครัว...มีคนที่รอคอยการกลับไป... เพราะอย่างนั้นฉันถึงไม่อยากจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้คนเหล่านั้นต้องเสียใจ.. เพราะหากมีใครมาทำอะไรพี่อีกครั้ง ฉันเองก็คงจะเสียใจมากเหมือนกัน
แต่ตอนนี้ฉันได้รู้ตัวแล้ว ว่าหากฉันไม่ทำอะไรซักอย่าง คนที่จะเสียใจที่สุดคือตัวของฉันเอง..
ฉันเคยเสียพี่ไปแล้วครั้งหนึ่ง ฉันไม่มีวันที่จะลืมความรู้สึกในตอนนั้น ความเจ็บปวด ความโศกเศร้า ความโกรธแค้น ความรู้สึกมากมายที่พร่างพรูออกมาจากตัวของฉันไว้เหมือนกับพายุ......แต่สิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนั้น ก็มีเพียงแค่ปิดหน้าและร้องไห้จนแทบจะขาดใจ...
ฉันอาจจะฟังดูโลภมากและเห็นแก่ตัว...แต่ฉันจะไม่ยอมปิดหูปิดตา นั่งรอพี่ชายด้วยรอยยิ้มอยู่อย่างนี้อีกแล้ว..
มันไม่สมควร และมันก็ช่างน่าเจ็บปวด
ฉันน่ะ....
...
"โอไรอ้อน.. คือว่าฉัน..."
"ไวทไลท์คะ.. พี่มีเรื่องอยากจะขอร้องค่ะ"
"คุณพอคะ หนู..."
"ตราบาป ขอโทษนะ แต่ว่า..."
"คุณคาเตน่า ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ.."
"คุณจุติคะ ฉันมีเรื่องอยากจะถามซักหน่อย"
"คุณเคน...ได้โปรดเถอะค่ะ"
"..คือว่าฉัน...ฉันอยากที่จะ..."
..
..
..
..
ในตอนนี้มือของฉันเปื้อนไปด้วยเลือด สีแดงจากผู้คนที่ฉันไม่เคนปรารถนาให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ฉันไม่เคยปรารถนาที่จะลุกขึ้นจากรถเข็นของฉันเพื่อเหยียบลงบนซากศพมากมายเหมือนอย่างตอนนี้ ฉันไม่เคยต้องการที่จะคร่าชีวิตของใคร
แต่ฉันไม่ใช่เจ้าหญิง... ไม่ใช่เจ้าหญิงของพี่ ไม่ใช่ตัวถ่วงของพี่
ฉันอยากจะยืนเคียงข้างพี่ ก้าวไปกับพี่ และอยู่เคียงข้างกับพี่ต่อไปอีกซักนิด...
หากพี่ชายต้องจมลงไปในความมืดอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว ฉันคนนี้ก็อยากที่จะจมลงไปด้วยกันกับพี่ เป็นแสงดาวของพี่ที่ฉันรักแม้แต่ในห้วงลึกที่ลึกที่สุดในโลกใบนี้
ฉันจะพยายามประคองตัวเอง จะพยายามจะสองแสง
ฉันจะจับมือพี่ไว้ จะยังคงยิ้มให้กับพี่
จะไม่ยอมสูญเสียอีกต่อไปแล้ว...
....
และเพราะว่าเวลาของพี่กับฉันนั้นไม่เท่ากัน เวลาของพี่และฉันมันห่างจากกันมาก เพราะอย่างนั้นจนกว่าจะถึงวันที่ฉันเป็นเพียงแค่ภาพภาพหนึ่งในความทรงจำของพี่ ฉันก็อยากที่จะทำอะไรให้พี่บ้าง
พี่คะ... น้องสาวคนนี้ของพี่ยังคงรักและเฝ้ามองพี่เสมอ เฝ้ามองแผนหลังของพี่อยู่ตลอด ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
พี่คะ.. พี่เสียใจรึเปล่าที่ตอนนี้น้องสาวของพี่มายืนอยู่ในจุดเดียวกับพี่แบบนี้
พี่คะ...
ฉันเองก็เป็นน้องของพี่นะคะ เพราะอย่างนั้น...ได้โปรด..... อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ
'คนคนนั้น' เองก็คงจะคิดเหมือนกับฉัน
'คนคนนั้น' ไม่ต้องการจะเห็นพี่เป็นอย่างนี้หรอกนะคะ
เพื่อตัวของพี่ เพื่อตัวของฉัน เพื่อ'คนคนนั้น' และเพื่อผู้คนมากมายที่สำคัญต่อเรา
เพื่อพวกเขาแล้ว... ฉันจะไม่ยอมอ่อนแออย่างนี้อีกต่อไปแล้วค่ะ
เพราะอย่างนั้น..พี่ก็ช่วยยอมรับการตัดสินใจนี้ของฉันด้วยนะคะพี่ชาย...
Thursday, April 5, 2018
[QZGS FanFic] Miss me?
[ ช่วงเวลาที่ฉันหายไป คิดถึงกันบ้างรึเปล่าเหล่าหาน? ]
[ ดีใจไหมที่ฉันกลับมาแล้ว ]
ถ้อยคำหยอกเย้าถูกพิมพ์ส่งผ่านเข้ามาใน QQ ของกัปตันแห่งป้าถู หานเหวินซิงไม่จำเป็นต้องดูชื่อผู้ส่งก็รู้ว่าใคร...จะมีซักกี่คนที่กล้าพูดกับเขาอย่างนี้ถ้าไม่ใช่มังกรแห่งเจียซื่อ--ไม่สิ ตอนนี้คงต้องเรียกว่ามังกรแห่งซิงซิน ชายเพียงคนเดียวที่กล้าเรียกเขาว่าตาเฒ่าหานอย่างเต็มปากเต็มคำ
หานเหวินซิงไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าใด หรือบางทีอาจจะไม่มีใครแยกแยะสีหน้าที่นิ่งเฉยของเขาออกก็เป็นได้
[ คิดถึงนาย? ไม่ขนาดนั้น ]
เยี่ยซิวละมือข้างหนึ่งจากคย์บอร์ด เขาเท้าคางมองคำตอบที่แสนจะใจร้าย จะว่าไปแล้วถ้าให้ถามว่าคิดถึงไหม มันก็คงมีหลายเรื่องให้คิด อย่างหานเหวินซิงคงคิดอะไรอย่างการต่อสู้กระมั้ง...แต่อย่างนั้นมันก็ไม่น่าจะตอบมาอย่างนี้ หรือจะไปคิดถึงเรื่องมากมายที่เขาเคยทำไว้กันนะ
...มันก็คงเป็นไปได้
แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบกลับ อีกข้อความนึงก็เด้งต่อขึ้นมาจนตัวเองต้องกดลบถ้อยคำตัดพ้อที่กำลังพิมพ์ทิ้งแทบไม่ทัน
[ แต่ฉันดีใจที่นายกลับมา ]
[ ดีใจ ที่ได้เจอ ]
มหาเทพเยี่ยแห่งสโมสรซิงซินยิ้มจนตายี เขากดปิด QQ ก่อนเดินออกไปยืดเส้นสายที่หน้าสโมสร เปลี่ยนบุหรี่ม้วนใหม่
[ เหมือนกัน ]
หัวหน้าทีมป้าถูมองข้อความสุดท้ายที่ถูกส่งมาพร้อมกับการออฟไลน์ของเจ้าตัวดี ลมหายใจถูกระบายออกอย่างเชื่องช้าอย่างชินชา ..ก็เพราะเป็นคนอย่างนี้ไง ต่อให้เป็นอวี้เหวินโจวก็คงคิดทบทวนดูก่อนเหมือนกันว่าจะตอบว่าคิดถึงได้อย่างเต็มปากเต็มคำรึเปล่า
"ก็ไม่ขนาดนั้น" หานเหวินซิงทวนคำพูด ก่อนกดปิด QQ ของตนบ้าง ชายหนุ่มเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ราวกับกำลังทบทวนบางสิ่ง
...เพราะในตอนนั้นความรู้สึกหลังจากที่รู้ว่าคู่แข่งตลอดกาลของตนจากลาวงการไป...มันใช้คำคำนั้นไม่ได้เลย คำว่าคิดถึงมันน้อยนิดจนแทบจะเรียกว่าไม่มี สิ่งที่มากยิ่งกว่าคือความผิดหวัง ไม่พอใจ และสับสน จนกระทั่งได้เห็นอีกฝ่ายกลับเข้ามาในเกมอีกครั้งหลังการประกาศถอนตัวไม่นานนัก
มันเป็นความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด เหมือนกับการถูกปั่นหัวทั้งที่ก็รู้ดีว่าคนอย่างเยี่ยซิวคงจะไปตายรังที่อื่นไม่ได้แต่ก็ใจหาย การเลิกเล่นเกมของคนที่เล่นมาสิบปีอย่างหมอนั่นมันต่างจากคนอื่น คนอย่างพวกเราไปทำอย่างอื่นนอกจากเล่นเกมนี้ไม่ได้หรอก
แต่อย่างน้อยเขาก็ยอมรับได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเขานั้นดีใจ...ที่อีกฝ่ายกลับมา
..ที่จะได้สู้กันอีกครั้ง...
...ที่จากนี้ไปบนยอดเขาที่สูงชันแห่งนั้นจะมีใครอีกคนหวนกลับคืนมายืนเคียงข้างกันเหมือนอย่างวันวาน...
[จบ]