ชื่อ-สกุล - ฉายา -
ออริออน ราฟาเล ช่างทำตุ๊กตาแห่งทริสทอร์
Orrion Rafale the Doll Maker of Tristor
ออริออน ราฟาเล เพชฌฆาตแห่งทริสทอร์
Orrion Rafale the Executioner of Tristor
หอ - ปราการปราชญ์
ปี - 4 (รุ่น1)
ประเทศภูมิลำเนา - ทริสทอร์
เพศ - ชาย
อายุ - 18
สีผม/สีตา - เทาเข้มจนเกือบดำ / ตาสีเทาเข้ม
ส่วนสูง/น้ำหนัก -
ปี4: 175/69
ปี7: 181/76
ประวัติ
- แม่เป็นสาวโรมันที่หนีการแต่งงานแบบคลุมถุงชนมาจนพบกับพ่อชาวทริสทอร์ที่ช่วยแม่เอาไว้ - หลังจากผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมายพวกเขาก็แต่งงานกัน และมีลูกด้วยกันสามคน - ออริออนเป็นลูกคนเล็ก และเป็นลูกหลง อายุของเขาห่างจากพี่ๆ 6ปี และ5ปีตามลำดับ - พี่น้องบ้านนี้รักกันดี แต่ในสายตาคนอื่นแล้วดูห่างเหินมาก ความจริงแค่เพราะปกติไม่คุยกันนอกบ้านเท่าไหร่ (คุยกันที่บ้านมาเยอะเกินพอแล้ว) - คุณพ่อของเขาทำงานให้ทางการ ส่วนมากจะกลับบ้านดึก แต่คุณพ่อก็ชอบพาลูกๆไปที่ทำงาน เรียนรู้ประสบการณ์ตั้งแต่ยังเด็ก...แต่ไม่เคยพาคุณแม่ไปเลยซักครั้ง และคุณแม่ก็ไม่อยากไป (ปัจจุบันเป็นคู่รักที่รักกันดีแม้สามีจะไม่มีเวลาให้(แค่กับภรรยา) แต่จะทะเลาะกันแค่เรื่องพาลูกไปดูงานฝึกงานกับพ่อเท่านั้น) - คุณแม่เปิดร้านขายตุ๊กตาเล็กๆ ถึงจะไม่ใช่ร้านที่คึกคักแต่ก็มีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆไม่ขาด เพราะคุณแม่ทำงานปราณีตมาก - เวลาพวกลูกๆไม่ได้ไปที่ทำงานกับพ่อ ลูกๆสามคนก็จะมาช่วยแม่ทำตุ๊กตาขาย - บางครั้งก็มีแต่พี่ๆที่ไปกับพ่อ เลยก็มีแค่ออริออนที่ช่วยงานแม่บ่อยที่สุด + เวลาเจ้าตัวตั้งสมาธิทำอะไรอยู่ก็จะเรียกไม่ได้ยิน พี่ๆเลยชอบปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นให้ช่วยงานแม่ไป (...) - พี่ชายสองคนของออริออนเข้าโรงเรียนตอนอายุ 15 หลังจากวันนั้นออริออนก็เริ่มไปช่วยงานพ่อมากขึ้น - ตระกูล “ราฟาเล” ของพ่อของออริออนเป็นตระกูลเพชฌฆาตฝีมือดีของทริสทอร์ ซึ่งลูกทั้งสามคนต่างก็รับสืบทอดตำแหน่งนี้กันหมด ไม่เว้นแม้แต่ออริออนเอง - แต่ตอนที่มาเข้าโรงเรียนพระราชาฯ มีแค่ออริออนคนเดียวที่เลือกจะใช้ฉายาอื่น ส่วนพี่ๆสองคนนั้นใช้ฉายา “เพชฌฆาต” กันทั้งคู่ - ความจริงคุณแม่ไม่รู้ว่าออริออนนั้น “ฝึกงาน” กับพ่อตั้งแต่เด็กแล้ว คุณแม่แค่คิดว่าไปดูงานเฉยๆ - ออริออนสามารถประหารคนได้โดยไม่รู้สึกอะไรเพราะเห็นจนชินตาแต่เด็ก แต่เขาก็ไม่ใช่พวกคนโรคจิตหรอกนะ เขาจะทำตามงานที่โดนสั่งให้มาเท่านั้น
- แม่เป็นสาวโรมันที่หนีการแต่งงานแบบคลุมถุงชนมาจนพบกับพ่อชาวทริสทอร์ที่ช่วยแม่เอาไว้ - หลังจากผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมายพวกเขาก็แต่งงานกัน และมีลูกด้วยกันสามคน - ออริออนเป็นลูกคนเล็ก และเป็นลูกหลง อายุของเขาห่างจากพี่ๆ 6ปี และ5ปีตามลำดับ - พี่น้องบ้านนี้รักกันดี แต่ในสายตาคนอื่นแล้วดูห่างเหินมาก ความจริงแค่เพราะปกติไม่คุยกันนอกบ้านเท่าไหร่ (คุยกันที่บ้านมาเยอะเกินพอแล้ว) - คุณพ่อของเขาทำงานให้ทางการ ส่วนมากจะกลับบ้านดึก แต่คุณพ่อก็ชอบพาลูกๆไปที่ทำงาน เรียนรู้ประสบการณ์ตั้งแต่ยังเด็ก...แต่ไม่เคยพาคุณแม่ไปเลยซักครั้ง และคุณแม่ก็ไม่อยากไป (ปัจจุบันเป็นคู่รักที่รักกันดีแม้สามีจะไม่มีเวลาให้(แค่กับภรรยา) แต่จะทะเลาะกันแค่เรื่องพาลูกไปดูงานฝึกงานกับพ่อเท่านั้น) - คุณแม่เปิดร้านขายตุ๊กตาเล็กๆ ถึงจะไม่ใช่ร้านที่คึกคักแต่ก็มีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆไม่ขาด เพราะคุณแม่ทำงานปราณีตมาก - เวลาพวกลูกๆไม่ได้ไปที่ทำงานกับพ่อ ลูกๆสามคนก็จะมาช่วยแม่ทำตุ๊กตาขาย - บางครั้งก็มีแต่พี่ๆที่ไปกับพ่อ เลยก็มีแค่ออริออนที่ช่วยงานแม่บ่อยที่สุด + เวลาเจ้าตัวตั้งสมาธิทำอะไรอยู่ก็จะเรียกไม่ได้ยิน พี่ๆเลยชอบปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นให้ช่วยงานแม่ไป (...) - พี่ชายสองคนของออริออนเข้าโรงเรียนตอนอายุ 15 หลังจากวันนั้นออริออนก็เริ่มไปช่วยงานพ่อมากขึ้น - ตระกูล “ราฟาเล” ของพ่อของออริออนเป็นตระกูลเพชฌฆาตฝีมือดีของทริสทอร์ ซึ่งลูกทั้งสามคนต่างก็รับสืบทอดตำแหน่งนี้กันหมด ไม่เว้นแม้แต่ออริออนเอง - แต่ตอนที่มาเข้าโรงเรียนพระราชาฯ มีแค่ออริออนคนเดียวที่เลือกจะใช้ฉายาอื่น ส่วนพี่ๆสองคนนั้นใช้ฉายา “เพชฌฆาต” กันทั้งคู่ - ความจริงคุณแม่ไม่รู้ว่าออริออนนั้น “ฝึกงาน” กับพ่อตั้งแต่เด็กแล้ว คุณแม่แค่คิดว่าไปดูงานเฉยๆ - ออริออนสามารถประหารคนได้โดยไม่รู้สึกอะไรเพราะเห็นจนชินตาแต่เด็ก แต่เขาก็ไม่ใช่พวกคนโรคจิตหรอกนะ เขาจะทำตามงานที่โดนสั่งให้มาเท่านั้น
ภาพร่างหรือบรรยายคร่าวๆ สำหรับชุดนักเรียน - ผมสีเทาเข้ม ตัดผมด้านหลังสั้น ส่วนด้านหน้านั้นไว้ยาวปรกหน้าปรกตาเพื่อจะซ่อนตาไว้ด้านหลัง.. แววตาของเขาแข็งกร้าวและเฉยชากว่าเด็กวัยเดียวกัน แม้จะยิ้มอยู่ก็ตาม ที่คอสวมที่คาดผมไว้ เวลาจริงจังกับอะไรจะดึงขึ้นมาคาดผมที่ปรกตาออก ใส่ชุดนักเรียนแขนยาวแบบพับแขนขึ้นมาจนถึงข้อศอก ไม่ติดกระดุมเสื้อ ข้างในใส่เสื้อยืดสีเข้มธรรมดา กางเกงขายาว รองเท้าบู้ทหุ้มข้อขึ้นมาเล็กน้อย ใส่แหวนครบสี่นิ้วยกเว้นนิ้วโป้ง ที่เอวจะขาดพกขวานขนาดเล็กไปมาแทนดาบ บางครั้งก็พกตุ๊กตาทำเองไปไหนมาไหนด้วย และบางครั้งตุ๊กตาพวกนั้นก็เดินไปไหนมาไหนเองด้วย(แต่ก็ไม่ห่างจากตัวเขาเท่าไหร่หรอก)
นิสัย - จะมีสมาธิมากแค่ในสิ่งที่สนใจเท่านั้น แต่ถ้าไม่สนใจแล้วก็จะไม่สนใจเลย - เวลาตั้งเป้าหมายกับอะไรไปแล้วก็จะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ - ถ้าตั้งใจกับอะไรอยู่ เรียกให้ตายก็ไม่ได้ยิน - เวลาปกติก็เหมือนเด็กทั่วไป(ยกเว้นแววตาที่แข็งกระด้างกว่าเด็กปกติมาก) - ค่อนข้างขี้เบื่อ - ไม่ชอบสบตาใครนัก เพราะแววตาของเขานิ่งกว่าเด็กวัยเดียวกันทั่วไป (และเพราะแม่ไม่ค่อยชอบให้จ้องด้วย เลยพยายามไม่สบตาใครต่อใครจนเป็นนิสัย) - พูดอะไรตรงไปตรงมา ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ - ไม่ชอบให้ใครยุ่งกับชีวิตครอบครัว นอกจากจะบอกเอง - ไม่ชอบการโดนเร่งให้ทำโน่นนี่ - เวลาทำอะไรที่เบื่อๆจะเริ่มยุกยิกไปมา อยู่ไม่สุข เพราะอยากไปทำอย่างอื่นแล้ว - พูดมากขึ้นจากเดิมเล็กน้อย และเริ่มเปิดบทสนทนากับชาวบ้านก่อนบ้างแล้ว อื่นๆ - ถนัดการทำตุ๊กตาหลายแบบเพราะแม่สอนมาทุกอย่าง - แหวนสี่วงที่นิ้วความจริงเอาไว้ต่อเอ็นตุ๊กตาแล้วใช้บังคับเล่นได้ - บางครั้งจะแบ่งวิญญาณตัวเองเสี้ยวเล็กๆใส่เข้าไปในตุ๊กตาให้มันขยับหรือเคลื่อนไหว ถ้าตุ๊กตาพังวิญญาณเสี้ยวนั้นก็จะกลับเข้าร่างตัวเอง แต่ถ้าใช้บ่อยๆเข้าร่างกายจะเหมือนขาดอารมณ์บางอย่างไปทีละน้อย และทรุดโทรมลง ((เป็นเวทที่เจอในหนังสือแปลกๆในห้องเก็บของเก่าของบ้าน)) - อาวุธประจำตัวคือขวานยักษ์ ปกติใช้เวททำให้เล็กเหมือนขวานดับเพลิงเล็กๆ พกติดตัวเสมอ - ขวานเล่มนั้นเป็นขวานเวลาใช้ทำงานของที่บ้าน - ความจริงที่ใช้อาชีพอื่นก็เพราะแม่งอแงบอกให้ใช้ เนื่องจากพี่สองคนใช้อาชีพนี้ไปแล้ว เลยตามใจแม่ ใช้อาชีพคุณแม่แทน - การที่อยู่ๆจะเห็นเขามีเรื่องกับพี่ๆ คือเรื่องปกติ...ที่บ้านก็ทำ เป็นการผูกไมตรี - เวลาคิดมาก เครียด เสียใจ หรืออายมาก จะห่อไหล่ลง ก้มหน้า และเอามือบีบกันแน่น - เวลาอายจัดๆหน้าจะแดงจากหูไปถึงคอ
ตัวเลือกทั้งสี่: แหวน ดาบ คทา มงกุฏ
-
ถ้าเป็นกษัตริย์ จะถือหรือสวมอะไรเป็นอย่างแรก
"แต่ข้าไม่อยากเป็นกษัตริย์นี่.." เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว เขานั่งห่อไหล่เมื่อรู้สึกเหมือนโดนผู้คุมสอบจ้องแกมบังคับให้รีบตอบ เขาแกว่งขา ยกมือที่ใส่แหวนขึ้นมอง "...คงจะแหวน เพราะของเล็กๆมันหล่นหายง่าย มงกุฏ ดาบ หรือคทามันหายยาก สะดุดตากว่า.. ของที่ใส่ติดตัวตลอดควรเป็นของที่สวมอย่างแรกนะ แล้วแหวนมันติดนิ้วด้วย”
สัญลักษณ์ความเป็นกษัตริย์ของตัวเอง
"ดาบ" ครั้งนี้น้ำเสียงเขาดังชัด ต่างจากเมื่อครู่ที่นั่งหยุกหยิก เขาเท้าแขน บังคับตัวเองให้มองไปอีกทางทั้งที่สายตานั่นวาววับ มันสั่นริกอยู่ลึกๆ "กษัตริย์มันเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ใช่ไหมละ แล้วหน้าที่นั้นมันก็ต้องดูแลประชาชน ปกป้องประชาชน ข้าเลยว่าดาบน่ะเหมาะที่สุด มันเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง จะช่วยชีวิต ไว้ชีวิต หรือพรากชีวิต...มันก็ได้ทั้งนั้น เป็นความเมตตา และเป็นการแสดงถึงความจริงใจ.. แล้วงานข้าก็ต้องใช้อะไรแบบนั้นด้วย"
สิ่งที่มอบให้ประชาชน
“ไม้เท้า” เขาเริ่มเปลี่ยนท่านั่งอีกครั้ง “ไม้เท้าทำอะไรได้หลายอย่างนะ ไม้ตากผ้า ฟืน ไม้เท้าพยุงตัว สร้างบ้านก็ได้ ทำเบ็ดตกปลาก็ได้ สะดวกดีออก แต่ข้าจะไม่ให้ดาบกับพวกเขา..เด็กดีไม่ควรถือของมีคมนะ” เขาจุ๊ปาก
เวลาที่ต้องทิ้ง จะทิ้งอะไร ตามลำดับ
“มงกุฏ เพราะเกะกะ.. ใส่นานๆมันก็หนักหัวเปล่าๆ คทา..ข้าคิดว่ามันไม่จำเป็นกับข้า ต่อมาคือ ดาบ..แต่ข้าจะไม่ยอมทิ้งจนกว่าจะใช้มันจนหักนะ เพราะถึงตอนนั้นคงไม่ได้ใช้อีกแล้ว… สุดท้ายก็แหวน..” เขามองมือตัวเองอีกครั้ง รอยยิ้มบางลงเมื่อมองแหวนในมือ “ของเล็กๆน่ะมันหายง่าย..ข้าบอกแล้วใช่ไหม เพราะแบบนั้นก็ควรจะเก็บติดตัวไปนานๆ..จนกว่าจะถึงช่วงสุดท้ายสิ”

No comments:
Post a Comment