Saturday, September 19, 2015

[T] โกรธ เกลียด ผิดหวัง



ความโกรธไม่ใช่สิ่งที่ดี และความโกรธก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถควบคุมมันได้ซักเท่าไหร่นัก

ตั้งแต่ยังเด็ก โทไบอัสมักทำอะไรลงไปโดยไม่ทันคิดให้รอบคอบเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการต่อยตี หรือจะเป็นการลงมือที่มากจนเกินไป และมันก็มักส่งผลเสียตามมาเสมอ...แม้จะเป็นเด็กที่ยังไม่เข้าใจประสีประสา แต่ทุกคนที่เล็งเห็นก็ได้บอกว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาอาจจะไม่สามารถที่จะเป็นอัศวินที่ดีได้


ทุกคนมอง และบอกว่าเขา "อาจจะ" ไม่สมควรที่จะเป็นอัศวิน "ที่ดี" ได้



แต่หลังจากที่โทไบอัสได้พบกับท่านอาจารย์ นางก็สอนให้ข้ารู้จักหัดควบคุมอารมณ์ หัดที่จะปล่อยวาง..สอนให้เด็กชายหัดทำใจให้เย็นลง และเก็บกดความรู้สึกรุนแรงพวกนั้นไว้ในใจ

นางมักบอกเขาเสมอว่าตัวของเขานั้นมีอารมณ์ที่รุนแรงซุกซ่อนอยู่ภายใน....เหมือนกับระเบิดเวลา มันเป็นความรุนแรงที่ทำให้นางไม่อาจจะปล่อยเขาให้เติบโตไปเพียงลำพังเช่นนี้ได้เพราะตัวเขาอาจจะเผลอทำอะไรที่ไม่เหมาะสมลงไปก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แม้ว่ามันอาจจะไม่ระเบิดขึ้นมาในช่วงนั้น ณ วินาทีนั้น แต่ก็ไม่มีอะไรที่สามารถมาการันตีได้ว่าอะไรจะตามมาทีหลัง


โทไบอัสยอมรับว่าในตอนนั้นเขาไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เขาก็โอนอ่อนตามนาง เชื่อฟังนาง เพื่อที่จะได้เติบโตมากกว่านี้ อดทนและทำทุกอย่าง ข่มตัวเองจนเติบโตมาได้สง่างามสมกับที่อาจารย์ปรารถนา.. และให้สามารถจะเสมอกับพี่ชายของตนได้


เมื่อกาลเวลาไหลผ่าน หัวใจที่เคยร้อนระอุของเขาก็เริ่มนิ่งสงบเหมือนกับสายธารในฤดูหนาว พวกมันแข็งแกร่ง และปกปิดความรุนแรงเบื้องล่างไว้ได้อย่างแนบเนียน เนียนเสียจนอาจารย์สาววางใจที่จะปล่อยเขาเอาไว้แล้วออกเดินทางต่อไป

การมีสมาธินั้นทำให้โทไบอัสรู้สึกว่าตนเองได้มองเห็นอะไรเพิ่มขึ้นหลายอย่าง


แต่แล้วความโกรธของเขาก็ประทุขึ้นมาหลายจากเขาปล่อยให้มันสงบนิ่งมานานหลายปี...ความโกรธนั้นเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า "ความผิดหวัง"



ความผิดหวัง...


โทไบอัสได้รู้จักคำนี้เป็นครั้งแรกจากพ่อของเขา หลังจากพวกเขาโดนไล่ออกจากบ้าน โดนยึดทุกอย่าง..

มันเป็นจุดหักเหครั้งใหญ่ในชีวิต และเขาก็รู้ดีว่าตัวเขายังคงเข้มแข็งไม่พอ ไม่มีใครทั้งนั้นที่เข้มแข็งพอจะรับเรื่องพวกนี้ได้ง่ายดายและรวดเร็วขนาดนั้น แม้แต่ไอแวนที่เป็นพี่คนโตที่สุดของบ้านยังแทบจะพังยับ

ในตอนนั้นพวกเขาคาดหวัง..

พวกเขาคาดหวังให้คนเป็นพ่อเป็นกำลังสำคัญ ให้ผู้ชายคนนั้นยืนหยัดขึ้นมาและนำพวกเขาให้ก้าวต่อไป...ให้ผู้ชายคนนั้นชี้นำ ทำให้พวกเขามองเห็นความหวังที่ปลายทางแม้มันจะริบหรี่ถึงเพียงใดก็ตาม


แต่ว่า...

รี๊ด เซปาร์ กลับพังยับเสียยิ่งกว่า


ผู้นำตระกูลเซปาร์เอาแต่ดื่มเหล้าต่างน้ำ พร่ำเพ้อถึงความฝันลมๆแล้งๆว่าราชีนีจะมาช่วยพวกเขา จะยื่นมือมาให้ จะไม่ยอมให้พวกเขาจมปลักกับเรื่องแบบนี้...กับความผิดที่ไม่ได้ก่อ

และในเวลาไม่นาน ผู้ชายคนนั้นก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

อารมณ์ของเขารุนแรงขึ้นจากการเสพติดสุรา ควบคุมตัวเองไม่ได้และปล่อยละเลยทุกคนในครอบครัว


ผู้ชายคนนั้นทอดทิ้งทุกอย่าง



ทอดทิ้งแม้กระทั่งตัวเอง




และนั่นคือครั้งแรกที่โทไบอัสได้ถูกสอนให้รู้จักกับความผิดหวัง ความรู้สึกนั้นกลายมาเป็นโกรธ...เกลียด...สมเพช เป็นความรู้สึกที่รุนแรงและควบคุมไม่ได้ เป็นความรู้สึกที่เขาถึงกับรังเกียจ.....และมันคือความผิดหวังที่เขาไม่คิดว่าจะได้พบอีกครั้งในเวลาต่อมา....




เดรีน เมอร์ลีย์

ผู้ให้เช่าหนังสือจากเจมิไนเป็นคนที่สองที่ทำให้เขาได้รู้จักถึงความผิดหวัง หากไม่นับตอนที่เขาเห็นท่านพ่อของตัวเองแขวนคอตายอยู่ในบ้านเหนือโต๊ะอาหาร เรื่องของเดรีนในหมากกระดานก็คงเป็นเรื่องที่สองที่ทำให้เขารู้สึกผิดหวังมาก

แต่จะโทษอะไรได้...ตัวเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายรุนแรงจนเกินไป


เดรีนไม่ใช่นักรบ ไม่ใช่นักสู้ นางเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาที่ได้รับตำแหน่งใหญ่อย่างคนเดินหมากเป็นครั้งแรก นางเป็นคนที่ได้กุมอำนาจทุกอย่าง กุมกระทั่งชีวิตของทุกคนในชั้นปี

นางจะลนลานก็ไม่แปลกอะไร ต่อให้ถ้านางจะร้องไห้เพราะเห็นเพื่อนพ้องตายก็ไม่แปลกอะไร หรือถ้านางจะเป็นลมตอนที่เห็นใครฆ่ากันตายก็....คงเป็นเรื่องที่เรียกได้ว่าปกติสำหรับเด็กผู้หญิงที่อยู่ห่างไกลจากทั้งสภาพแวดล้อมที่บีบบังคับ จากการฆ่าฟัน


แต่จะผิดก็ผิดที่ตัวเขาเอง หรือพูดให้ถูกคือเขาไม่ควรจะทำอารมณ์แบบนั้นใส่เดรีน เขาควรจะโทษตัวเองที่เป็นผู้ใหญ่ไม่พอ

โกรธ... ผิดหวัง ...


ความรู้สึกพวกนั้นทำลายเขาอย่างช้าๆพอๆกับที่เขาใช้มันทำลายผู้อื่น จากทั้งแววตา จากทั้งคำพูดและการกระทำ

เขาไม่ปฏิเสธว่าเขาโมโหนางจริงๆ และเขาไม่ปฏิเสธว่าเขาเสียความรู้สึกมากแค่ไหน... แต่อาจจะเป็นเพราะความคาดหวังที่เขาตั้งมากจนเกินไป และอาจจะเป็นเพราะชุดที่ทีมฝ่ายตรงข้ามใส่ในการประลองมันทำให้เขายิ่งโมโห และยังการที่แพ้ให้กับ...



...เขาผิดเอง

ที่ตั้งความหวังมากจนเกินไป

ตั้งความหวังกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงมากจนเกินไป....เด็กผู้หญิงที่กลัวแม้แต่จะสบตากับเขา..

มันทำให้เขาเห็นภาพซ้อนทับของน้องสาวของเขาที่อายุเท่ากับเธอ น้องสาวตัวน้อยที่ไม่รู้ว่าเป็นยังไง


และนั่นทำให้เขารู้สึกรังเกียจตัวเองเหลือเกิน



No comments:

Post a Comment