Thursday, December 26, 2019

[EED] Memory: Kayseal.1 29 Sep 2012


[Memo:Kayseal.1] Mattias: หอนางโลม


     “แมทเทียสชอบที่แบบนี้เหรอ”

     ข้าเลิกคิ้วหันไปมองผู้ตั้งคำถาม เด็กมนุษย์ที่ข้าพามาด้วยนั่งอยู่ข้างๆ ดื่มน้ำผลไม้ที่เหล่าสาวชาวมนุษย์ในสถานที่ซึ่งเรียกว่าหอนางโลมเอามาให้ ดวงตาของเด็กนั่นเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นบ้างแล้วหากนับจากช่วงเวลาที่ผ่านมา และแน่นอน..ความกล้าในตัวก็เพิ่มมากด้วยเช่นกัน

     ใช่...มากพอๆกับความปากเสียที่ทำให้ข้าหลุดยิ้มออกมาได้ทุกครั้ง..

     หากนับเพียงแค่ฝีปาก เด็กนี่ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้เสวนากับใครซักคนเมื่อนานมาแล้วทีเดียว

     “บุรุษเพศหากไม่พึงปรารถนาในสาวงามย่อมเสียชั้นเชิงชายเสียหมดนะเด็กน้อย” ข้าเชยคางเขาขึ้น หวังเพียงจะได้เห็นความอายอย่างไร้เดียงสาเหมือนเด็กทั่วไป แต่ข้ากลับต้องเป็นฝ่ายปล่อยมือเสียเองเมื่อเห็นความไม่หวาดกลัวในดวงตาคู่นั้น กลับกัน...มันกลับยิ่งท้าทาย มันทำให้ข้ารู้สึกว่าข้าคิดผิด

     “งั้นแล้วทำไมผู้ชายสองคนตรงนั้นถึงจูบกันอยู่ละแมทเทียส”

     คำถามนั้นทำเอาข้าแทบสำลักเหล้ารสเลิศในมือ ข้ามองไปตามปลายนิ้วที่ชี้ไปมุมห้องอีกฝาก สถานที่นั้นมีบุรุษสองร่างกำลังกอดก่ายกันอย่างเร่าร้อน ข้ารีบดึงให้เจ้าเด็กปากดีหันกลับมาแล้วตีมือให้กดลง

     “อย่าไปชี้ มันเป็นความชอบส่วนตัวของเขา..”

     “ถ้าอย่างนั้นก็เรียกได้รึเปล่าว่าสองคนนั้นเขาเสียชั้นเชิงชาย”

     เจอคำถามนี้เข้าไปข้าถึงกับจนปัญญา.. จะว่าพวกเขาเสียงเชิงชายมันก็อาจใช่ แต่คิดว่าคงเป็นในอีกคนละความหมายเสียมากกว่า แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไรให้เด็กมนุษย์ผู้นี้ได้รับรู้และจะไม่ถามอะไรที่ทำให้ข้าจนปัญญายิ่งกว่านี้กลับมา

     “เรื่องนั้น.. โตขึ้นเจ้าคงเข้าใจ” ข้าตัดจบเขาด้วยบทพูดประโยคเบสิก เห็นใบหน้านั้นง้ำงอแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะลองแหย่เล่น “แล้วตัวเจ้าละ คิดว่าสตรีหรือบุรุษ แบบไหนเล่าที่น่าสนใจยิ่งกว่ากัน”

     ได้ผล.. เด็กนั่นเงียบไป ก่อนจะตอบกลับมาด้วยคำที่ทำเอาข้ายิ้มค้าง

     “ไม่รู้สิ.. ฉันแค่สิบเอ็ดขวบนะจะไปรู้เรื่องแบบนั้นได้ยังไง ฉันสิคงต้องถาม ว่าแมทเทียสน่ะชอบผู้หญิงหรือผู้ชายมากกว่า”

     “การที่ข้ามาอยู่ในสถานที่เช่นนี้แล้วยังการันตีให้เจ้าไม่ได้อีกหรือ...”

     “นั่นนายกำลังจะบอกฉันรึเปล่า ว่านายเองก็อาจจะมีรสนิยมแบบผู้ชายสองคนนั้นด้วยเหมือนกันน่ะ”

     ข้าถึงกับเงียบกริบ ใครกันนะที่เป็นผู้สั่งสอนให้ออกมาปากเสียเช่นนี้ คิดแล้วข้าก็ถอนใจ ข้ารู้ตัวว่าคนผู้นั้นต้องไม่ใช่ข้าแน่นอน เพราะข้าจำไม่ได้ว่าตัวเองจะอาจหาญพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้หรือไม่โดยเฉพาะกับเด็กที่อ่อนวัยกว่าข้าหลายร้อยปี แต่ถึงจะได้ ข้าก็ขอยืนยันว่าเด็กนี่เป็นด้วยตัวของมันเองไม่ใช่ข้า!

     แต่แล้วเด็กนี่ก็หัวเราะ อาจจะเพราะเห็นว่าข้าเงียบอยู่นานจนคิดว่าตนชนะแล้วก็เป็นได้ แต่ข้าก็ไม่ถือ ไม่ท้วงอันใด เพราะข้ามั่นใจว่าฝีปากของข้าคงไม่อาจสู้ได้จริงๆ

     เอาเถอะ..

    ข้าเท้าคางมองรอยยิ้มของเด็กมนุษย์นั่น มันไม่ได้ดูใสซื่อหรืออ่อนต่อโลกอะไรนัก แต่ก็นะ..

     เป็นเด็กที่...เหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาจริงๆนั่นแหละ..








[แถมนิดหน่อย]


     “นี่แมทเทียส”

     “อะไรละเด็กมนุษย์”

     “นี่ดื่มได้รึเปล่า” เขายกแก้วเหล้าที่ข้าวางไว้ข้าตัวขึ้น ก่อนจะกระดกดื่มไปหมดแก้วโดยไม่รอข้าตอบ “อืม.... ก็โอเคนะ” ใบหน้านั้นแดงเล็กน้อยตามระดับของเหล้าที่ได้รับ หากแต่กลับไม่ปรากฏแววว่าวิงเวียนอันใดนอกจากหันไปคุยกับหญิงสาวที่เข้ามาพูดคุยอย่างเอ็นดู

     “นี่แมทเทียส”

     ข้าหันไปหาอีกครั้ง เขานั่งเท้าคางด้วยสองมือ และมองข้ากลับด้วยดวงตาสีเขียวหัวเป็ดที่กระพริบสองสามครั้งก่อนยิ้มเผล



     “ฉันว่าฉันเนื้อหอมกว่านายละ”




     ....................ไอ้เด็กนี่.....................











-----------------------------------------------------------


   ตอนเด็กเป็นงี้ ทำไมโตมาเป็นงั้น(ฟะ)!!!  /คาดว่าผลน่าจะมาจากอะไรนิดหน่อย /ปาดน้ำตา


   ถ้าใครรู้สตอรี่ของเขาแล้ว แมทเทียสคือปีศาจที่เขาอยู่ด้วย 3ก่อนเจอนนาเฟ และมาเรียนที่โรงเรียน ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะเครียดบ้าง แต่แต่งสองคนนี้แล้วสนุกดี.. เล่นกับแมทเทียสแล้วสนุกมาก :'D!!


   ก็คิดว่าจะคลอดออกมาเป็นตอนสั้นๆไปเรื่อยๆละน้า..  เออลืมไป ตอนนี้โปรตีน 11 ขวบครับ ส่วนแมทเทียส.. นั่นสินะ......


   ความจริงชื่อจั่วหัวควรเป็นชื่อแมทเทียสด้วย แต่ว่ามันพอร์ตตรงเข้าตัวโปรตีนมากกว่า ถ้ามีชื่อคนอื่นไปมันน่าจะมึนกว่า ก็เอาโปรตีนนี่ละใส่ไป..


ปล.   เรื่องนี้ผมจะเน้นแนวเล่าข้ามไปข้ามมานะครับ อาจจะไม่มีชื่อเรื่องมีแต่ชื่อคน เพราะผมอาจจะเอาลูกคนอื่นมายัดๆใส่ไป ก็นะ...... เราแต่งตามความชอบ ผมเน้นความแนว ไม่เน้นขายครับ ปลงแล้ว  /โดนต่อย


No comments:

Post a Comment