Tuesday, March 29, 2016

043. [ยมโลก] เพื่อนใหม่....? 2011.04.09

[ยมโลก] เพื่อนใหม่....?

posted on 09 Apr 2011 22:09 by darkodin in FictionYL
 
โรเพลย์ by โมวิวิน(นารา) และ เคส(วิกฤต)
 
ไม่มีการปรับปรุงและแก้ไขใดๆทั้งสิ้น
 
------------------------------------------------------------------------------------------
 
 
 
 [..ยมทูตท่านใดทำสามง่ามตกไว้ในกระทะทองแดงกรุณามารับคืนที่ประชาสัมพันธ์..]

  เสียงที่กรอกผ่านอินเตอร์โฟนดังกระจายไปตามลำโพง เขาพูดทวนอีกครั้งก่อนจะกดปิดเครื่องสื่อสาร ชายหนุ่มร่างสูงวัยยี่สิบกว่าๆบิดขี้เกียจขณะกวาดตามองเหล่าวิญญาณที่ก้าวผ่านไปมาด้วยความเบื่อหน่าย.. อยากจะโดดไปเดินเล่นตามปกติก็ไปไม่ได้เพราะติดว่ายังไม่ถึงกะของคนอื่นที่ต้องมาผลัดเวร
   "เบื่อจังนะ..." และตบท้ายด้วยการบิดขี้เกียจก่อนเอนหลังพิงพนัก..

เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏกายของชายหนุ่มร่างสันทัด
"ดูท่าทางที่ประชาสัมพันธ์จะว่างจังนะครับ..." เสียงนุ่มๆเอ่ยหยอกเย้าราวกับกับเพื่อนสนิททั้งที่นี่เป็นเพียงการพบหน้ากันครั้งแรก
ดวงตาสีดำสนิทพราวระยับจับจ้องไปที่อีกฝ่ายอย่างสนใจ ดูไปไม่ต่างจากเด็กน้อยได้พบพานของเล่นชิ้นใหม่

"ถึงไม่ว่างก็ทำให้ว่างได้แหละนา...." นาราขยับผ้าโพกศีรษะให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะมองคนรงหน้าให้เต็มตาแล้วยิ้มหวานให้ "แล้วนี่คุณใช่ยมทูตที่ลืมสามง่ามไว้ในกระทะของแดงรึเปล่าครับ...คุณ?" เขาคว้าปากกาโครงกระดูกขึ้นมาพร้อมสมุดขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายเซ็นชื่อรับของ

"วิกฤตครับ...แต่นั่นน่ะ คงไม่ใช่สามง่ามของผมหรอก"ชายหนุ่มหัวเราะขบขันเมื่อเห็นท่าทางกระตือรือร้นของอีกฝ่าย พลางแอบต่อในใจ
'อันที่จริงแล้ว สามง่ามที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็ไม่ใช่ของผมเหมือนกัน'
วิญญาณบาปสวมรอยกลายเป็นยมทูตนี่ท่าทางจะไม่ใช่เรื่องที่แค่พูดว่า 'ว้าว งั้นเหรอ' แล้วจบเรื่องไป แถมเขาก็ยังไม่อยากกลับไปแช่น้ำกระทะทองแดงต่ออีกสามสี่ร้อยปี เขาจึงทำเพียงขยับรอยยิ้มสดใสตอบกลับ
"แต่ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้รักนะครับ คุณ...?"

 "ฉันชื่อนารา ส่วนมากก็ทำงานอยู่ที่นี่ แต่ปกติจะร่อนไปทั่วล่ะนะ" เขาจ้องลึกเข้าไปในตาอีกฝ่ายราวกับจะสามารถที่จะล้วงเอาความจริงออกมาได้ แต่ซักพักก็เบนสายตาจากไป เก็บสมุดกับปากาเข้าที่ แล้วนั่งเท้าคางมอง
"ว่าแต่ว่างใช่ไหม ตอนนี้ฉันเหงามาก..." ชายหนุ่มเว้นช่วง "มานั่งเป็นเพื่อนหน่อยสิวิกฤต.." พลางตบไปที่เก้าอี้ข้างกาย

"อันที่จริงน่ะไม่...แต่ก็หาเหตุผลให้ว่างได้แล้วล่ะครับ" ร่างสันทัดขยับกายทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ตามคำเชื้อเชิญอย่างว่าง่าย
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณนารา"แม้จะรู้สึกได้ถึงความเคลือบแคลงจางๆจากอีกฝ่าย หากรอยยิ้มสดใสจอมปลอมอย่างเคยถูกปาดวาดขึ้นบนใบหน้าอีกครั้งโดยไร้ซึ่งพิรุจใดๆ

นาราเพียงแค่เหลือบตามองแล้วเลิกให้ความสนใจ เขาหมุนเก้าอี้ นั่งหันหน้าเข้าหาอีกฝ่ายแล้วหยิบสมุดเล่มหนามาเปิดไปเรื่อยๆราวกับกำลังทำงาน "แล้วนี่ไม่ทราบว่าอยู่ขุมไหนละถึงมาเดินเตร็ดเตร่ได้ถึงนี่ หรือว่าเป็นยมทูต" เขายิ้มหวานให้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มอันเป็นเองลักษณ์ประจำตัว มือก็เปิดพลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยๆราวกับกำลังหาบางสิ่งบางอย่างี่ตัเองต้องการ..

"อา...ว่ากันจริงๆแล้วก็คงจะ...เป็นยมทูตล่ะมั้งครับ"คำตอบทิ้งช่วงห่างกันเล็กน้อยคล้ายว่าคนตอบเองก็ไม่ใครจะมั่นใจเท่าไหร่นัก

"เหรอ.. เป็นยมทูตสินะ แล้วทำงานเป็นยังไงบ้างล่ะ สนุกไหม" ครั้งนี้เขากรีดสมุดเล่มหนาไปหน้าหลังๆก่อนจะค่อยๆพลิกอีกครั้ง นัยน์ตาสีดำมองคนตรงหน้าเพียงชั่วครู่แล้วก้มลงมองสมุดในมือใหม่ "ปกติแล้วไม่ค่อยมีใครมานั่งคุยแบบนี้เท่าไหร่ ถ้าฉันไม่ไปชวนนะเนี่ย...ดีจังเลยนะ"

"ก็ไม่เลวนักหรอกครับ"วิกฤตไหวไหล่เบาๆ "ไม่สิ...ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนแล้วล่ะก็ดีกว่าเยอะเลย...." สุ้มเสียงในประโยคถัดมาแผ่วลงราวกับเจ้าตัวไม่อยากจะนึกถึงมันเท่าไหร่นัก
"ว่าแต่ กำลังอ่านอะไรอยู่เหรอครับ?"ประโยคคำถามชักนำให้เนื้อหาในการสนทนาเลี่ยงห่างจะเรื่องของตน เพื่อปกปิดความลับที่ไม่อยากให้ใครรู้

นารายังไม่ตอบคำถามนั้น ซ้ำยังกลับพลิกสมุดไปเรื่อยๆจนจมเล่ม แล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มและแววตาที่บัดนี้ดูอ่านไม่ออกเอาซะเลย "จะว่าไป... วิกฤต รู้รึเปล่าว่าประชาสัมพันธ์นอกจากจะคอยประกาศโน่นนี่แล้วยังมีหน้าที่อะไรอื่นอีกรึเปล่า" เขานั่งประสานมือไว้ที่ตักด้วยท่าทีสบายๆ บัดเบี่ยงประเด็นออกจากหนังสือขนาดยักษ์ที่หนาจนน่ากลัวแล้วคุยกับอีกฝ่ายราวกับไม่ได้ยินคำถามเมื่อครู่

เรียวปากได้รูปขยับยิ้ม ยามเมื่อบทสนทนาถูกชักนำให้ออกห่างจากหนังสือเล่มนั้นอย่างปุบปับ บ่งบอกเป็นนัยยะว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการให้พูดถีง
"ไม่ทราบครับ..."ใช่ว่าไม่สังเกตถึงแววตาแปลกประหลาดน่าคับข้องใจ หากตามประสาคนที่ชอบความท้าทาย...เขาก็ไม่คิดปฏิเสธที่จะลองไหลไปตามกระเเสของอีกฝ่าย เพื่อจะได้ชมดูเรื่องน่าสนุกที่กำลังจะเริ่มขึ้น "...แล้วอีกหน้าที่ที่ว่านั่น...มันคืออะไรกันล่ะครับ?"

"ก็ต้องคอยเอาใจใส่และสอดส่องดูแลคนอื่นๆที่เดินเข้าๆออกๆ"นารานิ่งไปซักพัก มองท่าทีของอีกฝ่ายที่ดูไม่ค่อยทุกร้อนเท่าไหร่ "น่าแปลกจังที่ฉันรู้สึกว่าไม่เคยค่อยเห้นนายเท่าไหร่นะ" และยิ้มตอบไป

รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าชะงักไปเสี้ยววินาทีก่อนที่จะถูกปั้นเต่งขึ้นใหม่ "น่าแปลกจริงๆด้วยนะครับ" ชายหนุ่มพยักเออออไหลตามน้ำไปโดยไม่ยอมเผยพิรุจ
หากว่าไร้ซึ่งหลักฐานใดมายืนยัน และเพียงเขายืนกรานไม่รู้เรื่อง...อีกฝ่ายจะทำอย่างไรต่อไป... เพียงแค่คิด...ก็เป็นเรื่องน่าสนุกแล้ว...

"นั่นสินะ.. บางทีฉันอาจจะไม่สังเกตุนายก็ได้" แต่นาราก็ยังสงบ เขาที่เมื่อก่อนตอนยังมีชีวิตก็เคยชินกับเรื่องที่กดดันและต้องใช้สมาธิพอตัว เขามีสมาธิกว่าปกติจนเหมือนเป็นคนละคน เพียงงแค่รอยยิ้มที่กรุ่มกริ่มกับแววตาที่แลดูขี้เล่นนั้นจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม "อ่อใช่.. จะว่าไปนายก็อยากรู้นี่นาว่าไอ้หนังสือเล่มนั้นมันคืออะไร... ใช่ไหม?" แล้วเขาก็เบนบทสนทนากลับไปสู่เรื่องที่อีกฝ่ายอยากจะรู้

บทสนทนาถูกเปลี่ยนไปอีกแล้ว...แต่วิกฤตก็ยังคงทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "จะบอก...อย่างนั้นหรือครับ?" แววตาสีดำสนิทพราวขึ้น ปิดซ่อนความอยากรู้อยากเห็นไว้แทบไม่มิด

ชายหนุ่มผู้มีอดีตเป็นถึงเชื้อสายของเจ้าแห่งล้านนาไหวไหล่น้อยๆแทนคำตอบเพราะมันไม่ใช่เรื่องสำหลักสำคัญอะไร "ก็แค่ก๊อปปี้น่ะ.." เขาเว้นช่วง มองใบหน้าของคนอยากรู้อยากเห็นจนแลดูตลกขบขัน "เป็น..ที่รวมประวัติยมบาลและยมทูตในนรก" เขาเอื้อมมือคว้าแก้วน้ำขึ้นจิบ "แปลกดีนะ ที่คัดลอกของหนังสือที่อัพเดทตลอด มันกลับไม่มีชื่อหรอหน้าตาขอนายเลย...วิกฤต" และยิ้มบางออกมาเพียงเท่านั้น...

ใบหน้าคมคายปรากฏเป็นสีหน้าประหลาดใจอย่างที่ใครก็ดูไม่ออกว่าถูกปั้นแต่งขึ้น "ว้าว...." น้ำเสียงพิศวงปนตื่นเต้นนั้นเองก็เช่นกัน
"ทำไมถึงไม่มีอยู่เลยกันนะ....."เขาเอนหลังลงกับพนักพิงในท่วงท่าสบายๆราวกับไร้ซึ่งความกดดันใดๆ ทั้งที่ความลับที่เพียรปกปิดเริ่มถูกเผยขึ้นทีละน้อย
มือเรียวยกขึ้นประสานอยู่เบื้องหน้าตน ประหนึ่งกำลังชมดูเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเลยเพียงสักนิด "ช่าง.....น่าแปลกใจจริงๆ"

"นั่นสินะ แปลกดีจัง.." คนฟังเองก็ดูไม่ได้ทุกข์ร้อนใดๆเช่นกัน กลับกัน เขาเอื้อมตัวเก็บสมุดเล่มนั้นเข้าที่แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่อยๆจนจับจุดแทบไม่ได้ว่าต้องการจะสื่ออะไร เหมือนกำลังเล่นเกมกันสองคน.. เหมือนมันเป็นเกมที่ต่างฝ่ายต่างพยายามจะกระเทาะเอาความลับของฝั่งตรงข้ามทีละนิด ถ้าแพ้..ข้อมูลทั้งหมดก็หาย ถ้าชนะ..บางทีอาจจะได้รู้เรื่องมากมาย แต่ในตอนนี้สิ่งที่พวกเขาทำและต้องการคือความสนุก ในกระแสอากาศอันตรึ่งเครียดนี้พวกเขาต่างปล่อยตัวตามสบาย...ซึ่งมันก็แค่ภาบนอก..
"ในนรกเราเอง ก็มีเรื่องแปลกๆเยอะเหมือนกันนะว่าไหม.."

แว่วเสียงหัวเราะแผ่วเบาในลำคออย่างถูกใจจากคนถูกถาม "จริงอย่างที่คุณว่า..."
เกมนี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น...ใครจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้...เรื่องนั้น......ย่อมยังอีกยาวไกล...
"ยมโลกแห่งนี้น่ะ...."แต่อย่างไรเสีย...หากจะบังคับยัดเยียดความปราชัยให้เขาคนนี้...
".....เต็มไปด้วยเรื่องแปลกๆทั้งนั้น..."
...ก็คงไม่ง่ายดายถึงปานนั้น...

นารายิ้มหวานจนตาหยี.. ไม่ได้พบกับคนแบบนี้มานาน สนุกดีจริงๆ เกมเหล่านี้ แต่ก่อนเมื่อยังเยาว์วัยนั้นเขาหาถนัดไม่ แต่พอเริ่มโตขึ้นเขาก็เริ่มชินชา และเมื่อกาลเวลเรื่องเครื่อนฝ่านจนโตใหญ่ มันก็กลายเป็นแค่เกม..เพียงแค่เกมๆเดียว..
"แล้วนายที่ท่องไปทั่วนรกละได้พบเจอกับอะไรบ้าง" เขาถาม "เจอ... เรื่องแปลกๆบ้างรึเปล่าละ"

"เรื่องแปลกๆงั้นเหรอครับ"ชายหนุ่มทวนคำ ก่อนจะด้วยหัวเราะสุ้มเสียงแผ่วเบา "ถามว่าอะไรไม่แปลกบ้างก็คงจะตอบได้ง่ายกว่า...."ว่าพลางขยับรอยยิ้มกว้างขึ้น
"แถมยังมี...คนที่น่าสนใจเต็มไปหมด..."อย่างน้อยก็ที่ตรงนี้....เบื้องหน้าของเขา......
คนที่น่าสนุกน่าสนใจ...ของเล่นชิ้นใหม่ที่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเบื่อหน่าย...
"ไม่คิดอย่างนั้นเหรอครับ?"

"นั่นสินะ.." นาราพยักหน้า "น่าสนใจไปหมดเลยนะไม่ว่าจะอะไร หรือจะเป็นใครก็ตาม.."
....ไม่ยอมให้เป็นอย่างที่หวังง่ายๆหรอกนะ... รู้ดีว่าอีกฝ่ายตามเกมของเขทัน พอคิดแบบนั้นแล้วก็รู้สึกสนุกขึ้นมาจนได้ ดวงตาสีดำวาวจับจ้องโครงหน้าได้รูปของตนตรงหน้าแล้วก็หัเราะคิก...แต่ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอกนะ..
“แล้วคนน่าสนใจที่ว่า มันมีใครบ้างละ..”

รอยยิ้มยังคงไม่จางลงจากใบหน้าขณะสบสายตาคู่สนทนา "...นั่นน่ะ" วิกฤตหรี่ตาลงเล็กน้อย
"...เป็นความลับครับ"เขาตบท้ายคำพูดยั่วเย้าด้วยเสียงหัวเราะแผ่วเบา ปลายนิ้วเรียวปัดป่ายเรือนผมสีควันที่ปรกหน้าตนขึ้นเกี่ยวคล้องหลังใบหู กริยาท่าทางล้วนไหลลื่นไม่ติดขัด
ไม่มีท่าทีของคนที่กำลังปกปิดเรื่องราวที่ไม่อยากให้ใครรู้เอาไว้เลยสักนิด

"งั้นเหรอ เป็นความลับสินะ.." เขาเดาะลิ้น "ฉันอยากรู้จังเลย..." ขยับตัวเข้าใกล้อีกนิดหน่อยแล้วเท้าคางมองด้วยรอยยิ้มที่หากเป็นสาวๆคงใจสั่นกันเป็นทิวแถว เรือนผมสีดำยาวถูกปัดไปด้านหลัง เขาเปลี่ยนท่านั่งไขว่ห้าง "ถ้ามาลองแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน..อยากจะได้อะไร อาจจะลองแลกดูก็ได้นะ" เขาขยิบตา..

...น่าเสียดายที่วิกฤตไม่ใช่สาวน้อยแรกแย้มที่จะใจสั่นกับกริยายั่วเย้าของอีกฝ่าย "ก็ขึ้นอยู่กับว่า..." เขาทิ้งช่วงเล็กน้อยเพื่อนกระตุ้นเปลวไฟแห่งความอยากรู้ที่กำลังเริ่มลุกโชน
"ข้อมูลที่คุณมี มันน่าสนใจแค่ไหน..."
ไม่ได้ตอบรับ...หากก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธ นอกจากจะไม่เป็นฝ่ายยอมเผยข้อมูลที่ตนมีอยู่ ยังบีบให้ฝ่ายตรงข้ามต้องแสดงข้อมูลก่อนอีกทางหนึ่ง

นาราไหวไหล่ เขาเอนหลังพิงพนักด้วยท่าทีสบายๆ “ข้อมูลที่ฉันมีน่ะ ราคาแพงนะ..” เขาใช้ปลายนิ้วเคาะหัวตัวเองเบาๆ “เพราะความจำฉันก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดี จะเรียกได้ว่าเป็นคลังข้อมูลขนาดย่อยก็คงพอได้อยู่” แม้จะกลั้วหัวเราะในลำคอจนฟังดูเหมือนสิ่งที่พูดมันเป็นแค่เรื่องล้อเล่น หากแต่ในความรู้สึกส่วนลึกแล้ว อีกฝ่ายกลับรู้ได้ทันที ว่ามันอาจจะเป็นได้มากกว่านั้น..
 “กล้าจะเสี่ยงไหมละ พ่อวิญญาณหลงทาง..”

วิกฤตโบกมือสั้นๆเพียงหนึ่งครั้ง ข้างกายก็ปรากฏชุดชาร้อนกรุ่นขึ้นอย่างเป็นปริศนา ชายหนุ่มยกถ้วยกระเบื้องเคลือบขึ้นละเลียดน้ำชารสละไมราวกับกำลังครุ่นคิด...
ทั้งที่คำตอบของคำถามนั้นย่อมทราบดีอยู่ในใจมาตั้งแต่ต้น
"มนุษย์น่ะ...เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดนะครับ..." จู่ๆเขาก็เอ่ยขึ้น "ทั้งที่รู้ว่าเป็นเรื่องต้องห้าม......" รอยยิ้มยักยิ้มไร้พิษภัยที่เหมือนกันน้ำตาลก้อนเคลือบยาพิษถูกปาดวาดขึ้นอีกครั้ง
"แต่ก็ยัง...เลือกที่จะชิมรสชาติหอมหวานของผลไม้ต้องห้ามนั้นอยู่ดี..."
...ในที่สุด...เกมนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วจริงๆ....

ชายหนุ่มเจ้าของสายเลือดจากแดนเหนือหลุบตาลงมองสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่ และมันทำให้คนที่อยู่ตรงข้ามกับเขาต้อขมวดคิ้วกับดอกกาสะลองมากมายที่อยู่บนใบตองบนตักของชายหนุ่ม ทั้งที่เมื่อครู่เขายังไม่เห็น กลิ่นหอมจางๆจากดอกไม้สีขาวทำให้เขารู้สึกสงบอย่างประหลาด และคนตรงหน้ากำลังจัดมันลงแก้วใบเล็กๆ
  “ถ้าอย่างนั้น.. ก็เชิญเริ่มได้เลยหนุ่มน้อย..”
 หนุ่มน้อย...ไม่ใช่คำดูถูกดูแคลน.. แต่เป็นเรื่องจริง....

สรรพนามที่ถูกเรียกขานนั้นแม้ไม่พึงใจ หากก็ไม่สามารถว่ากล้าวกระไรได้ ชายหนุ่มพริ้มเปลือกตาลง สูดกลิ่นหอมจางๆของดอกไม้จากเมืองเหนือเข้าปอด
ก่อนที่จะค่อยๆลืมตาขึ้น...อย่างเชื่องช้าจนน่าอึดอัด
"ผมคิดว่าพูดไปชัดเจนแล้วนะครับ..." รอยยิ้มที่ไม่เคยจางหายไปจากใบหน้ากว้างขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย "ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลของคุณจะน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน..."
ถ้วยกระเบื้องเคลือบชั้นดีถูกวางลง พร้อมกับดวงตาสำดำสนิทลึกล้ำที่สานสบกับดวงตาของอีกฝ่าย "ว่ายังไงล่ะครับ?"

นารายิ้ม เขายังไม่ยอมที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลง่ายๆ ไม่อยากี่จะเป้นฝ่ายหลงกลก่อน “แต่ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่านายต้องการอะไร” เขาไม่ได้เบนสายตาหนีจากดวงตาที่แลดูเหมือนคาดคั้นเขาเลย “หากสิ่งที่ฉันพูดออกไปไม่ใช่สิ่งที่นายต้องการ นายก็จะถาม และเบี่ยงประเด็น..ต่อไป..ต่อไป.. เรื่องแบบนั้นฉันต้องระวังให้ดี และฉันก็รู้ว่านายเข้าใจนะวิกฤต”

อีกฝ่ายไม่หลงกล...
หากแต่ชายหนุ่มกลับแย้มยิ้มถูกใจแทนที่จะมุ่นคิ้วเข้าหากันอย่างที่ควรจะเป็น "น่าเสียดายจังนะครับ..."
น้ำเสียงแสนเสียดายอย่างเสแสร้งนั่นช่างขัดกับใบหน้าที่ยังคงระบายไปด้วยรอยยิ้มเสียเหลือเกิน
"นึกว่าคุณจะรู้เสียอีกว่าผมต้องการอะไร..."คำพูดนั้นเป็นนัยแห่งการท้าทายไม่ปิดบัง ยั่วยุอีกฝ่ายเล่นหมายให้ความอดทนลดลงต่ำ "น่าเสียดาย..."

“พอดีฉันมันเป็นคนไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่” นาราโคลงศีรษะไปมา “ถ้าไม่บอก ฉันจะไปรู้ได้ยังงว่าค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อสำหรับนายคืออะไรกัน” เขาจัดดอกกาสะลองให้เป็ระเบียบ ดอกไม้สีขาวที่เหมือนว่าเพิ่มจำนวนขึ้นยังคงงดงามราวกับเพิ่งร่วงหล่นลงมาจากต้น “ฉันมันเป็นคนเข้าใจยาก..” เขาเว่นช่วง
“หวังว่าคงจะเข้าใจ”

ชายหนุ่มรับฟังถ้อยคำของคู่สนทนาด้วยรอยยิ้มแม้ว่าการณ์จะไม่เป็นไปตามที่ปราถนา...หากทว่าแบบนี้...ก็ใช่ว่าจะไม่ชอบหรอกนะ
"...ถ้าอย่างนั้น"ถ้วยชาที่ยังคงร้อนกรุ่นถูกยกขึ้นประทับขึ้นบนเรียวปากอีกครั้ง ของเหลวสีสวยไหลผ่านลำคอลงไป ส่งให้รอยยิ้มบนใบหน้าละมุนลงหลายส่วน
ก่อนที่เขาจะเอ่ยต่อให้จบ "...ทำไมไม่ลองบอกมาดูก่อนล่ะครับ ว่าคุณต้องการจะ'รู้'อะไรจากผม"

ผู้ฟังหัวเราะคิก เขานั่งคิด แสร้งทำเหมือนคิดไม่ออก และไม่รู้จะพูดอย่างไร ก่อนจะดีดนิ้วเป๊าะ “ถ้าอย่างนั้น.. คำถามแรกของฉัน” เขาเว้นช่วง รู้ดีว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะถามออกไปนั้นมีมุลค่ามหาศาลสำหรับอีกฝ่าย.. และมันก็เป็นการเปิดเกมที่ควรจะไปอยู่แทบจะหลังสุด แต่เขาก็ยอมที่จะเสี่ยง..
“วิญญาณตรงหน้าฉันทำยังไงถึงกลายมาเป็นยมทูต..”

วิกฤตเลิกคิ้วเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเพียงแค่เริ่มต้นก็จะได้ยินคำถามนี้ หากเขาก็ไม่ต้องการให้เกมเกมนี้จบลงเร็วเกินไป...
"...พูดถึงเรื่องอะไรกันน่ะครับ?" สีหน้าคล้ายกับไม่ล่วงรู้เข้าใจในความหมายของคำถามถูกปั้นขึ้น...อย่างรวดเร็วและแนบเนียนจนน่ากลัว..

“นั่นสิ อะไรกันนะ” ...คงเร็วเกินไปที่จะถาม.. คิดแล้วก็ระบายลมหายใจออกมาช้าๆ "งั้นจะเริ่มถามจากคำถามง่ายๆ.." คำถามง่ายๆที่เหมือนจะตอบง่าย แต่มันก็ยาก.. ยากในหลายๆความหมาย เพราะง่ายเกินไปก็เลยยากที่จะตอบออกมาเป็นคำพูด...
"ทำไมถึงยอมมานั่งที่นี่ล่ะ"

ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆแล้วตอบในแทบจะทันที "ก็เพราะคุณเชิญให้นั่งน่ะสิครับ..." ไหวไหล่เบาๆอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งที่ความจริง...เหตุผลย่อมไม่ใช่เพียงแค่นั้น

"อาจจะใช่..ที่ฉันเชิญ แล้วนายมานั่ง.." เขาหมุนปากกาไปมา โครงกระดูกสีขาวแลดูงดงามและลื่นเปนมันจากการใช้งานมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี "แต่มันก็มีทาเลือกมากมายที่นายไม่ปฏิเสธ.. แล้วนายที่บอกว่าไม่ว่างนใตอนแรกก็เลือกที่จะนั่ง และบอกว่าว่างก็ได้.." เขาเว้นช่วงหายใจ "คำถามขอคำตอบ ขอให้ตอบตามตรง"

เขาเลิกคิ้ว และยิ้มรับการคาดคั้นจากอีกฝ่าย "ผมเป็นคนชอบเรื่องน่าสนุกครับ....." ชมดูอีกฝ่ายที่เริ่มดูร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อยด้วยความรู้สึกสนุกสนาน "และเเน่นอนว่าเหตุผลที่ผมเลือกจะนั่งลงตรงนี้ตามคำเชิญ ก็ต้องเป็นเพราะ....คุณ....ก็น่าสนุก..."

พอได้ยินคำตอบ ความใคร่รู้ก็กลับมาราบเรียบประหนึ่งท้องทะเลยามไร้คลื่นลม เขาหายใจเข้าและออกราวกับคนที่มีสมาธิสูง.. และก็ใช่.. เขาโดนสั่งสอนให้ควบคุมอารมณ์มามากพอที่จะไม่แสดงออกไป และเขาก็ไม่ใช่พวกที่จะเผยความรู้สึกออกไปได้ง่ายๆกับใครซักคนที่เขายังไม่ให้ความรู้สึกว่าควรจะหันหลังให้ก่อนคนนี้
“ตานายถามกลับแล้ว” เขายิ้ม

ร่างสันทัดไหวไหล่กับท่าทีที่กลับไปนิ่งสงบของอีกฝ่าย "อา...ตาผมแล้วสินะครับ..." เอียงศีรษะเล็กน้อยขณะครุ่นคิด "คำถามแรกของผม...อืม..." วิกฤตเงียบไปครู่หนึ่ง
"...ชอบดื่มชาไหมครับ คุณนารา?"ว่าพลางขยับรอยยิ้มสดใส คำถามหยอกเย้าไม่จริงจังนั้นทั้งคล้ายและไม่คล้ายกำลังเล่นสนุกอยู่ในที

“ฉัน...” เขามองชาที่ยังไม่ได้แตะ “..ชอบน้ำเปล่าผสมดอกมะลิมากกว่า” พร้อมคำตอบหวานหูที่ไม่ถนอมน้ำใจ ชายหนุ่มยกแก้วน้ำของตัวองขึ้นจิบแทน “คำถามต่อไปของฉันเลยนะ” กล่าวโดยไม่รอฟัคำตอบของอีกฝ่าย “ไม่เบื่อบ้างเหรอ กับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้น่ะ”

หัวเราะเบาๆรับคำตอบที่ไม่ถนอมน้ำใจนั่น ก่อนจะเสจิบชาในมือ ซึมซับลิ้มรสละมุนละไมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบคำถามนั้น "...ทำไมถึงต้องเบื่อด้วยล่ะครับ?" ...ด้วยคำถาม

"เพราะมันอาจจะน่าเบื่อยังไงละ" และคำตอบ.. ก็แทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย...
"แล้วคิดว่าอยู่ยมโลกแบบนี้มันมีความสุขดีงั้นเหรอ.. ไม่คิดบ้างเหรอว่าน่าจะมีอะไรที่ดีกว่าน่ะ หืม...?"

"คิดสิครับ..."พยักหน้ารับ "แต่ผมก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนักหรอกนะ..."ตรงข้ามกับคำพูดราวกับท้อแท้สิ้นหวังเสียเต็มประดา
รอยยิ้มและดวงตาของคนพูด กลับไม่บ่งบอกถึงความไร้หนทางเลือกเลยสักเสี้ยวเดียว

"คนที่สิ้นหวังน่ะตาไม่มีประกยขนาดนั้นหรอกนะ" เขาหัวเราะเบาๆ "ก็น่าสนใจดีนะ.. ฉันไม่ได้เจอคนที่คุยกันแบบนี้มา...นานเหมือนกัน"

"เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ" น้อมรับคำชมอย่างไม่ขัดเขิน "ผมเองก็ไม่ได้พบคนแบบคุณมานานพอควร...." ชายหนุ่มระบายรอยยิ้มพึงใจขึ้นบนใบหน้า ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง

"..อืม เราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้นะ" เขาหัวเราะเบาๆอีกครั้ง รู้สึกสนุกดีกับการเล่นที่ยืดเยื้อกันมานานพอสมควร "แบบนั้นคงสนุกไม่เลวนะว่าไหม.."

"หากไม่รังเกียจ ผมก็ยินดีครับ"...เพื่อนใหม่...ที่ต่างหมายใจให้ต่างฝ่ายต่างแพ้พ่ายในสักวันหนึ่ง....

"งั้นก็.. ฝากตัวด้วยนะ..."

...ฉันเองก็..ไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกนะ....

"ผมเอง...ก็เช่นกัน..."

...แล้วมาเล่นกันอีกนะครับ...จนกว่า...ใครคนใดคนหนึ่งจะพ่ายแพ้...ในที่สุด....


......จนกว่าจะถึงวันนั้น.. ตอนนี้พวกเราคงต้องเป็นเพื่อนกันไปก่อน...


..จนกว่าจะถึงเวลา.. โอกาสที่มีอยู่จะไม่มีวันปล่อยให้หลุดลอยไปแน่ๆ...



...แล้วผมจะคอยชมดู...จุดจบสุดท้ายของเกมเกมนี้...




...ว่าใคร...




...จะเป็นผู้ชนะ...










THE END or TBC ?






-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฟิคนี้เกิดจากการโรเปที่ไม่มีการปรับปรุงหรือแก้ไขใดๆครับ!

วิกฤติจากยม1 และนาราจากยม 2(ที่ยังไม่ได้ลง)

คุณคิดว่า..ถ้าเป็นเกมจริงๆ...

ใครจะชนะ??

เปิดโหวตครับ!! (ฮา)



/หลงรักคาแร็กเตอร์นาราละ..../อุฮิ๊!! 

อ่านแล้วลุ้นตามว่าใครจะเพลี่ยงพล้ำก่อนกัน.....แต่ถ้าจะยากแหะคู่นี้....

ถ้าถามว่าใครจะชนะ.....เอาจริงๆว่าตอบยาก....

แต่ภาษาสวยกันทั้งคู่เลยอะ อ่านแล้วไม่ติดขัดเลย 
#8By Nu_Baifern on 2011-04-10 15:13
ผิดม้ายยยย ชุ้นเชียร์วิกกี้!!
สู้เขานะวิกกี้~~~ *3* /โดนต่อย
#7By Mr.Gappae on 2011-04-10 09:08
มาเม้นว่า วิกกี้สู้ๆ อย่าแพ้นะ ><
#6By iruka{cygnus-14} on 2011-04-10 01:05
เอาหล่ะ เราคงต้องเลือก วิกกี้ อย่าอย่าแพ้นะเฟ้ย!!!

แต่เค้าคิดว่าการประลองนี้มันจะต่อไปเรื่อยๆแบบอินฟินิตี้ว่ะ จริงๆ /มองทั้งสองคนที่กินกันไม่ลง
#5By JunE on 2011-04-10 01:04
โรมมี่ชนะ....เอ๋ะ...

เหมือนจะไม่มีในตัวเลือก

/จากไป
#4By I'm ProtozoA on 2011-04-10 01:02
อ่านจบแล้วโม่โม่วววว สนุกมาก อ๊ากกกกกกกก
อยากได้เขยเท่ๆแบบนารา มองแล้วโคตรได้ใจ

รอตอนต่อไปอยู่นะคะ <<< กลายๆว่าต้อง 2BContinute

แต่งเก่งมากอ่ะ ถ้าไม่นับคำผิด(ก็สดในสไกป์นี่เน๊อะ)
เจ๋งๆๆ /ตั้งหน้าตั้งตารออ่าน

สู้ๆquestion 
#3By CHO-RUN on 2011-04-10 00:48
เอ๊ะ โมวินวิน ...... โม่วเปล่าหว่า

โทษทีนะคะ ก๊งๆ อย่างไหนก็บอกด้วยละกันเน้อ
#2By CHO-RUN on 2011-04-09 22:53
ฮึ่ดโช่ะ ปาดดดดดดดดดดดดดด

ทันไหมหว่า เดี๋ยวขึ้นไปอ่านต่อค่าาา

นึกออกแต่หน้านาราแหละ.....
ไม่เป็นไร อีกคนก็จิ้นได้ ฮ่าๆๆๆ

ปล. แอดบล็อคแล้วนะจ๊ะ (คนนี้นี่ซัวใช่ไหมเนี่ย มึนๆๆ )
#1By CHO-RUN on 2011-04-09 22:52


No comments:

Post a Comment